วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[SF] - Gimme that ice-cream vol.2 - #ไอติมอาฮุน

Gimme that ice-cream Vol.2
{Sehun x Luhan}
#ไอติมอาฮุน


          เด็กวัยกำลังโตเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ผู้ปกครองต้องช่วยดูแลด้วยนะคะ

            นั่นคือสิ่งที่ครูประจำชั้นพูดในวันประชุมผู้ปกครองที่โอเซฮุนไปนั่งฟังกับหลานชายเกือบค่อนวัน แต่ก็ไม่คิดเลยว่าคำพูดนั้นของคุณครูจะทำให้เขาต้องกลับมาคิดทบทวนในเวลานี้..

            “เสี่ยวลู่ไปกินไอติมกับอามั้ยครับ”
            เด็กน้อยส่ายหัววือ
            “ไอติมจริงๆ แบบเย็นๆเลย”
            “ไม่เอาครับ เสี่ยวลู่อยากกลับบ้าน”
            เสียงแข็งๆนั้นทำให้ผู้เป็นอาถึงกับตะคริวกินปาก ร่างเล็กใบหน้ามู่ทู่เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปนั่งเบาะข้างหลังแทน เซฮุนรู้สึกแปลกใจไม่น้อยกับอาการของเสี่ยวลู่ที่น่ารักของเขา ปกติเลิกเรียนเสี่ยวลู่อารมณ์ดีจะตายแล้วก็จะวิ่งขึ้นรถมาโป๊ะๆกับเขา แต่ดูเสี่ยวลู่วันนี้สิ.. เขาได้ทำอะไรให้หลานไม่พอใจหรือเปล่าวะ เท่าที่จำได้ก็มีแค่เรื่องเดียว.. มันอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องคืนนั้น แต่มันก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วนี่หว่า จะมาโกรธเอาตอนนี้มันช้าไปมั้ยครับเสี่ยวลู่..

            “เสี่ยวลู่โกรธอาเรื่องวันนั้นหรือเปล่าครับ”
            “เปล่าครับ”
            “แล้ว..”
            “อาฮุนขับรถสิ จอดแช่หน้าโรงเรียนนานๆไม่ได้นะครับ”
           
            เด็กน้อยตาแป๋วที่นั่งกอดอกอยู่เบาะหลังใช่เสี่ยวลู่ของเขาหรือเปล่าวะ..

            มันแปลก แปลกไปหมด หลานที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่หกขวบทำไมจะไม่รู้ว่าเป็นคนยังไง นิสัยยังไง แค่น้ำเสียงหรือคำพูดผิดปกติไปนิดเขาก็จับสังเกตได้แล้ว
            หรือเสี่ยวลู่จะมีเรื่องไม่สบายใจกับที่โรงเรียน
            ถ้าเป็นเรื่องนั้นจริงคงต้องคุยกันยาวที่บ้านแล้วล่ะ เด็กวัยนี้เป็นวัยเลือดร้อนคึกคะนอง เสี่ยวลู่อาจจะไม่ได้เป็นคนไปทำอะไรใครเขาก่อน แต่ด้วยอารามผีเสื้อตัวน้อยใครๆก็อยากเข้ามาจับมาเล่นด้วย
            คิดแล้วมันก็จี๊ดขึ้นสมอง ถ้ามีไอ้หนุ่มคนไหนมาทำเสี่ยวลู่เป็นแบบนี้ มึงตายคาตีนแน่ๆครับไม่ต้องเป็นห่วง..

            ผู้เป็นอาเอาแต่คิดนู่นคิดนี่ตีรันพันยุ่งในหัวอย่างเครียดจัด โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าแก้มกลมของหลานตัวน้อยกำลังแดงซ่าน.. แอบมองตาของอาหนุ่มผ่านกระจกมองหลังแล้วก็หลบสายตาออกไปอยู่อย่างนั้นตลอดทาง
            เพราะเสี่ยวลู่นั้นคือ
เด็กวัยกำลังโต..



            หลานเดินนำอาเข้ามาภายในบ้าน โดยที่อาก็คิดวุ่นวายหน้าเครียดอยู่เพราะไม่รู้จะเริ่มคุยกับหลานยังไงก่อน จนกระทั่งเสี่ยวลู่จะเดินขึ้นห้องทำให้เขาต้องเรียกหลานเอาไว้
            “เสี่ยวลู่ครับ”
            เด็กน้อยหยุดเดินแล้วหันมาหาอา และก่อนที่เซฮุนจะได้เปิดปากพูดอะไรเสี่ยวลู่ก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรได้ ร่างเล็กวิ่งดุ๊กๆเข้ามาหาเซฮุนพร้อมกับเปิดเป้หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งให้

            “อาฮุน เสี่ยวลู่ลืมเอาอันนี้ให้”
            เมื่อเซฮุนรับกระดาษใบนั้นมาอ่านเด็กน้อยก็หมุนตัววิ่งขึ้นห้องทันที เขารีบอ่านเนื้อหาในกระดาษแผ่นนั้นอย่างร้อนรน กลัวว่ามันจะมีเรื่องอะไรขึ้นมาอย่างที่คิดไว้..

          ประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากโรงเรียนต้องใช้สถานที่เป็นที่พักให้กับนักกีฬาเบสบอล..

            เหมือนยกเอเวอร์เรสออกจากอก.. ใจหายใจคว่ำหมดนึกว่าเป็นจดหมายเรียกพบผู้ปกครองเสียอีก เซฮุนถอนหายใจออกมาราวกับจะพาความหนักอึ้งในอกออกไปด้วย แต่มันก็ยังคงหนักหน่วงในใจอยู่ดี คนที่เขารักทั้งคน.. ถ้าหากเสี่ยวลู่เจ็บ รู้ไว้เลยว่าเขาเจ็บเสียยิ่งกว่า
.
.
.

            ผมเดินลงบันไดบ้านอย่างกับคนหมดอาลัยตายอยาก ขอบตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้าเพราะนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาพร้อมกับเปิดทีวีดูข่าวเช้าไปเรื่อย ไม่นานแม่บ้านก็เอากาแฟมาให้ สงสัยเห็นตาผมแพนด้ามากมั้งก็เลยซัดชงกาแฟดำให้ผมอย่างเข้มเลย
            นั่งจิบกาแฟไปได้สักพัก.. ผีเสื้อตัวน้อยก็โบยบินลงมาจากบันได ผมได้แต่หวังว่าวันนี้เสี่ยวลู่จะหายเป็นปกติและน่ารักกับผมเหมือนทุกวัน

            ผมนั่งยิ้มรอเสี่ยวลู่วิ่งเข้ามาหาผม ร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้แล้ว.. ผมเองก็วางแก้วกาแฟรอหลาน หากแต่เสี่ยวลู่กลับเดินผ่านหน้าผมฉิวไปแล้วนั่งลงบนโซฟาอีกตัวข้างๆผมแทน ไอ้อาที่นั่งยิ้มก็ยิ้มค้างอยู่อย่างนั้นแหละครับ..
            พึ่งจะเข้าใจอาการหน้าสั่นก็วันนี้ เสี่ยวลู่นั่งดื่มนมที่แม่บ้านเอามาเสิร์ฟพร้อมกับดูทีวีไปด้วยโดยไม่สนใจผมเลยสักนิด เหมือนเห็นผมเป็นอากาศหรือเป็นสัมภเวสีลอยไปลอยมาอยู่ในห้องโถง การโดนเมินไม่ใช่เรื่องตลกนะครับเสี่ยวลู่ อาฮุนไม่ตลกเลย..

            “เสี่ยวลู่เมื่อคืนนอนหลับสบายดีมั้ยครับ” ผมทักทายยามเช้า ทั้งที่ในใจนี่โดนทิ่มจนรั่วไปหมด
            “ดีครับ อาฮุนล่ะ”
            “อาฮุนนอนไม่ค่อยหลับเลย”
            เมื่อเด็กน้อยได้ยินแบบนั้นก็หันขวับมามองหน้าผมทันที ผมไม่จำเป็นต้องทำหน้าตาน่าสงสารให้เสี่ยวลู่เห็นใจ เพราะหน้าผมตอนนี้มันก็ไม่ไกลจากคำว่าน่าสงสารเท่าไหร่..

            “มาให้อาโป๊ะๆหน่อยสิครับ ให้อาชื่นใจหน่อยเร็วคนเก่ง”
            เสี่ยวลู่นิ่งไปนิดเมื่อผมพูดแบบนั้น ตากลมหวานสวยหลบสายตาของผม แดกแห้วอร่อยเลยไอ้ฮุน..

            แต่ไม่นานผีเสื้อตัวน้อยของผมก็ค่อยๆวางแก้วนมลงบนโต๊ะ ลุกจากโซฟาแล้วเดินเตาะแตะเข้ามาหาผม ร่างเล็กค่อยๆขยับขึ้นมานั่งคร่อมตักของผม หัวใจของผมมันพองโตขึ้นเป็นกองเลย
            “อาฮุนอย่าไม่สบายนะครับ..”
            ริมฝีปากเล็กๆนุ่มนิ่มจุ๊บลงบนปากของผมหนึ่งทีแล้วผละออกไป ผมยื่นหน้าจะไปแลกจุ๊บกับหลานอย่างที่เคยทำแต่มือเล็กก็ดันไหล่ผมไว้พร้อมกับหดคอออกห่าง ผมหลับตาลงแล้วปล่อยมือจากเอวเสี่ยวลู่ให้เขาเป็นอิสระ บางทีหลานอาจจะโตแล้ว และก็ไม่ต้องการแสดงความรักกับผมแบบนี้อีก

            เด็กน้อยลุกจากตักของผม เมื่อผมลืมตาขึ้นมองก็พบว่าเขาวิ่งขึ้นห้องแล้ว ปกติวันหยุดของเสี่ยวลู่แบบนี้เราสองคนมักใช้เวลาไปด้วยกัน อ่านหนังสือบ้าง เล่นเกมบ้าง หรือไม่ก็ออกไปเที่ยว ผมรู้ว่าวันหนึ่งเสี่ยวลู่ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ จะต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทันแบบนี้
            เพียงวันข้ามวัน เสี่ยวลู่ก็ผลักผมให้ออกห่างจากเขา..


            ผมออกไปทำงานและสั่งให้แม่บ้านดูแลเสี่ยวลู่แทนผมด้วย เย็นนั้นแม่บ้านบอกว่าเสี่ยวลู่ออกจากห้องมาแค่เวลาทานข้าวเท่านั้น ปกติเด็กน้อยสดใสร่าเริงมักจะเบื่อห้องของตัวเองจะตาย ผมเริ่มหัวเสียเข้าแล้ว พึ่งจะเข้าใจว่าเวลาพ่อแม่เห็นลูกๆทำตัวแปลกๆนั้นมันคิดมากแค่ไหน ผมคิดว่าคืนนี้ผมต้องคุยกับเสี่ยวลู่อย่างจริงจังแล้วล่ะ
            ผมเป็นห่วงเสี่ยวลู่มากจริงๆ

            ใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดสบายๆอยู่บ้าน วันนี้มีติดประชุมนิดหน่อยกว่าจะเลิกงานก็ทุ่มสองทุ่มเข้าไปแล้ว ส่วนพี่ชายของผมนั้นงานยุ่งจนนอนที่บริษัทแทบทุกวัน กลายเป็นผมที่ต้องดูแลเสี่ยวลู่แต่เพียงผู้เดียว ผมเดินไปยังห้องของเสี่ยวลู่ เคาะประตูสองสามครั้ง
            “เสี่ยวลู่ นอนรึยังครับ”
           
ไร้เสียงใดตอบกลับ ผมขมวดคิ้วแล้วก็ครุ่นคิด สามทุ่มเสี่ยวลู่จะหลับไปแล้วหรือยังไงนะ
ผมค่อยๆบิดลูกบิดประตูก็พบว่าเสี่ยวลู่ไม่ได้ล็อกห้อง ผมถือวิสาสะเปิดเข้าไปเสียเลย สงสัยวันนี้คงได้ลองดุหลานเป็นครั้งแรกเสียแล้วล่ะ

            แต่พอเดินเข้ามาเห็นผีเสื้อตัวน้อยกำลังขดตัวหลับใหลอยู่บนเตียงก็พับเก็บความตั้งใจนั้นลงไปแทบไม่ทัน เมื่อเด็กน้อยได้ยินเสียงผมปิดประตู เขาก็ค่อยๆกระพริบตาขึ้นลงช้าๆอย่างัวเงีย เหมือนพึ่งจะงีบหลับไปเมื่อกี้นี้เองแล้วก็ถูกผมรบกวนเสียก่อน
            “อาฮุน..”
            เสียงหวานเอ่ยเรียกแผ่วเบา.. ผมก็เลยเดินเข้าไปนั่งลงบนเตียงของเสี่ยวลู่ ลูบเส้นผมนิ่มไปมา

            “อาฮุนเคยมีแฟนไหม..” เด็กน้อยถามด้วยเสียงสะลึมสะลือ ตื่นครึ่งไม่ตื่นครึ่ง คุยกับผมทั้งที่ยังหลับตาอยู่เลย
            “หืม.. อาไม่เคยมีหรอก อามีแต่เสี่ยวลู่นี่แหละ”
            เด็กน้อยยิ้ม..

            “อาฮุนว่าเสี่ยวลู่มีแฟนดีไหม”
            เมื่อผมได้ยินประโยคนั้นก็เหมือนโดนตบเข้าที่หน้า ผมถามกลับด้วยเสียงตกใจ “ทำไมถึงได้อยากมีแฟนล่ะครับ”
            “...”
            “อาฮุนไม่ให้มี เสี่ยวลู่ยังเด็กอยู่เลยนะ เรียนหนังสือก่อนนะครับ”
            “...”
            “ได้ยินอาฮุนมั้ยเสี่ยวลู่”
            “อืม..”
            เสียงหวานขานรับพร้อมกับนอนหลับนิ่งสนิทไปแล้ว.. ผมเรียกสติตัวเองเป็นร้อยๆครั้ง คิดไว้อยู่แล้วเชียวว่าเสี่ยวลู่ต้องมีอะไรในใจสักอย่างหนึ่งแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าไอ้อะไรในใจนั้นมันจะเป็นเรื่องหาแฟน ผมเครียดจนเหงื่อซึมตามขมับ คนที่รักเสี่ยวลู่มันก็นั่งอยู่ตรงนี้ไงครับ จะไปหาคนอื่นอีกทำไม..
            อยากจับรวบหัวรวบหางแต่ก็ทำไม่ลง เห็นทีผมต้องบอกเขาแล้วล่ะว่าอะไรเป็นอะไร ความคึกคะนองของวัยรุ่นมันน่ากลัว ผมอาบน้ำร้อนมาก่อน ผมต้องบอกต้องสอนเสี่ยวลู่ว่าอย่าไปทำอะไรตามความคึกคะนอง เดี๋ยวจะมานึกเสียใจทีหลังมันไม่คุ้ม
            เพราะว่าการคบเป็นแฟนกันของเด็กสมัยนี้มันไวไฟ.. ผมถึงได้หวงเสี่ยวลู่จะเป็นจะตายอยู่แบบนี้ไง..


            เช้าวันรุ่งขึ้น
            ผมเดินเข้าไปปลุกเสี่ยวลู่ในห้องนอนของเขา แต่เมื่อผมเดินเข้ามาประชิดเตียงผมถึงกับตกใจ เสี่ยวลู่หน้าแดงมาก.. เหงื่อซึมออกมาตามไรผม สองมือน้อยกำหมอนและผ้าห่มแน่น
            “เสี่ยวลู่!
            ผมรีบเข้าไปอังหน้าผากจับเช็คนู่นนี่อย่างตกใจ แต่มือบางก็เหมือนพยายามจะปัดมือผมออกไปไม่ให้แตะตัวของเขา ผมจะดึงผ้าห่มออกแต่เสี่ยวลู่ก็ดึงเอาไว้แน่น ตากลมโตค่อยๆกระพริบช้าๆแล้วมองหน้าของผมที่กำลังร้อนรน

            “อาฮุนออกไปนะ..”
            “...”
            ผมยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก เสี่ยวลู่ไม่เคยไล่ผมแบบนี้เลย

            “เสี่ยวลู่เป็นอะไรไหนบอกอาสิครับ ก่อนที่อาจะไม่ใจดีกับเสี่ยวลู่แบบนี้”
            เด็กน้อยส่ายหัวเบาๆอย่างเหนื่อยๆ..

            “เห็นความเป็นห่วงของอาเป็นอะไรอ่ะครับ.. อานอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงเสี่ยวลู่ วันนี้อาลางานเพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวลู่ เราสองคนยังเป็นอาหลานที่สนิทกันอยู่ใช่มั้ยครับ”
            “อาฮุน..”
           
            “อาฮุนออกไปก่อนนะครับ”

            ผมมองแก้มของเสี่ยวลู่ที่ยิ่งแดงขึ้นไปอีกเมื่อมองหน้าผม ตากลมใสนั่นคอยเอาแต่หลบสายตา ผมกำลังโดนเสี่ยวลู่เมินและตีตัวออกห่างอย่างจริงจัง ความรู้สึกหัวเสียประดังประเดเข้ามาใส่ผมเต็มไปหมด ผมไม่เข้าใจ..

            ร่างสูงลุกขึ้นและหมุนตัวเดินออกจากห้องไปทันที เด็กน้อยนอนหน้าแดงซ่านอยู่กับเตียงพรูดลมหายใจออกมาแผ่วเบา หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักสั่นไหว ด้วยความไร้เดียงสาทำให้ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังรู้สึกร้อนรุ่มและอึดอัดตัวนั้นมันคืออะไร ยามที่มองหน้าอาหนุ่มของตัวเองก็ยิ่งรู้สึกรุนแรงมากขึ้นไปอีก เด็กน้อยกลัวว่าผู้เป็นอาจะโกรธ ทั้งอายกับอาการแปลกๆเหล่านี้..
            เด็กวัยนี้พึ่งเริ่มที่จะมีความรู้สึกและอารมณ์ทางเพศ มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ..
            “อาฮุนอย่าโกรธเสี่ยวลู่เลยนะ..”



            แกร๊ก
            “วันนี้อาจะอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวลู่เอง”
            “อาฮุน..”
            เด็กน้อยทำหน้าตกใจเมื่อเห็นอาหนุ่มหน้าหล่อเดินเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับถือหนังสือเข้ามาด้วยเล่มหนึ่ง ผู้เป็นอานั่งลงบนโต๊ะทำการบ้านของหลานแล้วเปิดอ่านหนังสือที่หยิบติดมาด้วย ลู่หานทำหน้ามุ่ยแล้วพลิกตัวลงจากเตียงเดินเตาะแตะเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ
            ก็อาฮุนนั่นแหละที่ทำให้เสี่ยวลู่เป็นแบบนี้..

            เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผีเสื้อตัวน้อยก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงของตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น สไลด์ดูนู่นดูนี่ไปเรื่อย ฟังเสียงแอร์หึ่งๆกับเสียงขยับตัวของอีกคนที่ทำให้รู้ว่าเขายังนั่งอยู่ที่ตรงนั้นไม่ไปไหน

            อึดอัด..

            ทั้งคู่รู้สึกแบบนั้น.. เป็นเพราะทั้งเซฮุนและเสี่ยวลู่เป็นอาหลานที่สนิทกันมากๆ พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมันก็ทำให้รู้สึกอึดอัดแปลกๆที่ไม่ได้คุยกันเลยหรือออดอ้อนโป๊ะๆกันเหมือนอย่างเคย

            ยิ่งพอคิดถึงวันที่อาฮุนเข้ามาในห้องและให้กินไอติม.. มันก็ยิ่งรู้สึกร้อนๆหนาวๆมากขึ้นไปอีก..

            จนกระทั่งเซฮุนเป็นฝ่ายทนไม่ไหว ปิดหนังสือพั่บลงเพราะอ่านไม่รู้เรื่อง เด็กน้อยสะดุ้งและก้มหน้าจนแทบมุดกับจอโทรศัพท์เมื่ออามองมา เซฮุนลุกจากเก้าอี้และเดินอ้อมเตียงมานั่งยองลงกับพื้นข้างๆเตียงที่หลานนอนอยู่ เขาขมวดคิ้วจ้องมองใบหน้าหวานสวยนิ่ง
            “อาฮุนคิดดูแล้ว เสี่ยวลู่จะมีแฟนก็ได้นะ”
            “...”
            “อาตามใจ.. แต่เสี่ยวลู่ต้องไม่ออกนอกลู่นอกทาง อย่าทำให้ปะป๊ากับอาผิดหวัง โอเคมั้ยครับ”
            ฝ่ามืออบอุ่นลูบหัวกลมๆของเด็กน้อยไปมาอย่างปลอบโยน
            “ฮึก.. ไม่เอาครับ” เสี่ยวลู่ส่ายหัวไปมา สิ่งที่ละเมอพูดตอนนั้นมันก็แค่ความคิดที่อยากจะหาทางแก้ปัญหาก็เท่านั้นเอง
            “ไม่เอานะคนเก่ง ไม่ร้องนะครับ”
            เมื่อเห็นหลานน้ำตาร่วงเผาะเซฮุนก็ตกใจรีบเข้าไปนั่งบนเตียงแล้วจับร่างเล็กนั่งบนตัก สวมกอดเด็กน้อยแล้วลูบผมโอ๋ น้ำตาของเสี่ยวลู่เหมือนมีดแทงลงกลางใจ แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งทำแบบนี้ เข้ามากอดแบบนี้ เด็กน้อยก็ยิ่งตัวสั่นและหัวใจเต้นตึกตักไปหมด

            มือเล็กผลักไหล่อาแล้วกระโดดลงจากตัก วิ่งหนีไปหลบอยู่ในซอกข้างโต๊ะเครื่องแป้งที่ติดกับผ้าม่าน เด็กน้อยนั่งกอดเข่าตัวสั่น น้ำตาคลอหน่วยและไหลหยดลงมาบ้าง.. แก้มกลมเห่อแดงไปหมด
            เซฮุนพยายามตั้งสติและระงับอารมณ์ของตัวเองให้เย็นไว้ ทั้งเสียใจที่ช่วยอะไรหลานไม่ได้เลยทั้งที่เราสนิทกันและคุยกันได้ทุกเรื่องขนาดนี้ ร่างสูงค่อยๆลุกจากเตียงแล้วเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าหลาน เอื้อมมือจะไปเช็ดน้ำตาให้

            “อาฮุนอย่า..”
            “...”
            “อย่าจับตัวเสี่ยวลู่”
            “เสี่ยวลู่เป็นอะไรบอกอาสิครับ อาใจจะขาดอยู่แล้วนะ”
            น้ำเสียงสั่นๆราวกับเขาจะขาดใจดั่งคำพูด แต่นั่นก็ทำให้เสี่ยวลู่ได้รู้ว่าอาฮุนนั้นเป็นห่วงกันมากมายขนาดไหน เป็นห่วงจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพียงแค่เพราะอาการบ้าๆของตนเอง..

            ดวงตากลมสั่นระริกช้อนมองสบตาผู้เป็นอา.. หนีบขาเข้าหากันด้วยแก้มแดงๆ เหงื่อซึมออกมาตามขมับ
            “อาฮุนอย่าโกรธเสี่ยวลู่นะ..  เสี่ยวลู่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร”
            “เสี่ยวลู่ไม่สบายหรอ”
            เด็กน้อยส่ายหัว “มัน.. อึดอัด”
            “อึดอัด?”
            “ตรงนี้..”
            นิ้วน้อยๆชี้ลงไปยังส่วนกลางระหว่างขาของตนเองที่มันกำลังบวมคัดเพราะไม่ได้ปลดปล่อยเลยสักที เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา.. ต้องมีผู้ปกครองคอยสอนเกี่ยวกับเรื่องนี้
            เซฮุนมองไปตรงที่หลานชี้ แล้วก็มองแก้มแดงจัดและตากลมที่หลุกหลิกหลบสายตาเขา เพียงแค่นั้นก็รู้แล้วว่าหลานของเขานั้นเป็นอะไร.. ปากบางคลี่ยิ้มออกมาอย่างโล่งอกที่เสี่ยวลู่ไม่ได้เป็นอะไรหนักอย่างที่คิด หลานก็แค่อยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโต มือขวาค่อยๆจับท่อนขาเล็กแยกออกจากกันจนเห็นส่วนกลางลำตัวของหลานกำลังแสดงตัวออกมาผ่านกางเกง..

            “งั้นเดี๋ยวอาช่วยเองนะ ไม่ต้องกลัวนะครับ”
            “อาฮุนจะช่วยยังไงหรอครับ”
            “กินไอติม.. เหมือนที่เสี่ยวลู่เคยกินของอาไง”
            รอยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์เผยให้เห็นเพียงแวบหนึ่งก่อนจะปรับเปลี่ยนเป็นอบอุ่นไม่ให้หลานตื่นตกใจกลัว เซฮุนค่อยๆปลดประดุมกางเกงของเสี่ยวลู่แล้วค่อยๆดึงลงจนถอดทิ้งไปในที่สุด ใบหน้าหล่อโน้มลงไปประชิดกับเจ้าเสี่ยวลู่แล้วใช้ฟันงับขอบกางเกงในพร้อมกับดึงคลี่ลง..
            ไม่แปลกใจเลยที่เสี่ยวลู่จะรู้สึกอึดอัดจนร้องไห้ ก็ดูจากเจ้าเสี่ยวลู่น้อยที่กำลังบวมแดงนี่สิ.. เป็นเขาก็คงทรมานน่าดู
            เด็กน้อยหน้าแดงยิ่งขึ้นไปอีกและหลับตาปี๋ไม่กล้าสู้หน้าอาหนุ่ม ทั้งอาย และกลัวว่าอาจะโกรธ..

            “อาจะกินไอติมแล้วนะคนเก่ง”
            “อะ.. อื้อ”
            เสียงตอบรับหวานกระท่อนกระแท่น เซฮุนยิ้มขำออกมาเบาๆด้วยความเอ็นดูแล้วส่งปลายลิ้นออกมาเลียส่วยปลายเบาๆ เพียงแค่นั้นก็ทำให้เด็กน้อยกระตุกและสั่นไปทั้งร่าง ความรู้สึกแปลกใหม่แล่นวาบไปทั่วทั้งร่างกาย มันทั้งทรมานและสุขสม.. อยากที่จะก้าวเข้าไปให้มันลึกยิ่งกว่านี้อีก..
            “อ๊า.. อา.. อาฮุน แฮ่ก..”
            “ไม่เกร็งนะครับเด็กดี”
            เด็กน้อยร้องครางแทบไม่เป็นภาษา มือบางปัดป่ายไปทั่วและสุดท้ายก็กำจิกผ้าม่านข้างตัวเอาไว้ โพรงปากร้อนๆของอาฮุนและลิ้นนุ่มๆที่ตวัดหยอกเล่นไปมาแทบจะสูบพลังจากเด็กน้อยไปเกือบจะหมดสิ้น ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าแดงซ่านของหลานพร้อมกับกินไอติมไปด้วย ดวงหน้าหวานทั้งทรมานระคนสุขสม เด็กไร้เดียงสาย่อมแสดงออกทุกสิ่งตามความรู้สึกอยู่แล้ว..

            มือน้อยขยำเส้นผมของอาฮุนเอาไว้และสุดท้ายก็จับขึ้นลงเป็นจังหวะเสียเอง.. กายบางสั่นระริกไปทั้งตัวเหมือนจะขาดใจ..

            “อะ.. อ๊า”
            ความสุขสมถูกปลดปล่อยออกมาในรูปหยาดน้ำสีขุ่นเข้าในโพรงปากของเซฮุน เขากลืนกินเข้าไปอย่างไม่รังเกียจและไล้เลียทำความสะอาดให้จนหมดจด เด็กน้อยลืมตาขึ้นปรือปรอยเหนื่อยหอบ แทบจะทรุดตัวลงกับพื้นแต่มือแกร่งก็ประคองคว้ากอดเอาไว้ได้ทัน เขาจับเสี่ยวลู่ให้มานั่งตักของเขาแล้วกอดเอวบางเอาไว้
            “สบายตัวขึ้นหรือยังหื้ม” เซฮุนถามด้วยรอยยิ้มเอ็นดู หอมขมับอีกหนึ่งที
            “มากๆเลย.. ขอบคุณนะอาฮุน”
            “ทีหลังเป็นอะไรก็ต้องบอกอานะครับ ไม่ต้องอาย อาไม่ดุหรอกนะเสี่ยวลู่ ยิ่งไม่บอกแบบนี้สิอายิ่งจะดุเรา มีอะไรอาจะได้ช่วยแก้ปัญหา เสี่ยวลู่ยังมีอานะครับ”
            “ขอโทษครับ.. เสี่ยวลู่กลัวอาฮุนโกรธ มันน่าอายด้วย”
            “แล้วอาโกรธหรือเปล่า”
            หัวกลมส่ายไปมา
            “นั่นแหละครับ อาฮุนรักเสี่ยวลู่ อาฮุนไม่โกรธหรอก ไหนมาให้อาฮุนโป๊ะๆทำโทษเด็กดื้อเลย”
            “คิก.. อย่านะครับ โอ๊ะ”
            สะโพกสัมผัสได้ถึงอะไรทิ่มหลัง จะว่าซิปกางเกงของอาฮุนก็ไม่ใช่เพราะวันนี้อาฮุนใส่กางเกงผ้าธรรมดาๆนี่นา.. มันเหมือนกับตอนที่เสี่ยวลู่อึดอัดเลย

            “อาฮุนก็อึดอัดหรอฮะ” เสียงหวานถามออกไปพร้อมกับช้อนมองตาใสแป๋ว
            “เอ่อ..” ใครจะไปทนกับสีหน้าทรมานของเสี่ยวลู่ไหวกันเล่า.. อาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ
            “งั้นเดี๋ยวเสี่ยวลู่กินไอติมอาฮุนให้นะ”
            เด็กน้อยเสนอแล้วร่นตัวลงมานั่งแบะกับพื้น บางทีเขาอาจจะต้องสอนเสี่ยวลู่เสียแล้วว่าไอ้การทำแบบนี้หรือการกินไอติมที่เรียกกันมันคืออะไร เดี๋ยวเสี่ยวลู่เอาไปเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนจะวุ่นวายไปกันใหญ่ เขาจะสอนหลานแน่ๆ.. แต่ตอนนี้ขอเล่นกับเจ้าผีเสื้อตัวน้อยก่อนล่ะ

            เด็กวัยกำลังโตช่างมีทั้งความไร้เดียงสาและความน่ารักเย้ายวนใจผสมผสานกันอย่างลงตัว..

            “กินอาทั้งตัวเลยก็ได้ครับ”




            END
            #ไอติมอาฮุน


วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[SF] - Gimme that ice-cream - #ไอติมอาฮุน

- Gimme that ice-cream -
{Sehun x Luhan}
#ไอติมอาฮุน


            เช้าที่อากาศแจ่มใสวันหนึ่ง
            ชายหนุ่มร่างสูงนั่งทอดกายจิบกาแฟยามเช้าอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นที่โอ่อ่าหรูหรา ดูข่าวเช้าในจอโทรทัศน์แอลซีดีติดผนังไปเรื่อยเพื่อรอเวลา..

            ทำไมยังไม่ลงมาอีกน้า.. เสี่ยวลู่

            เสียงวิ่งลงบันไดเตาะแตะดึงความสนใจจากสายตาคมให้ละจากจอทีวีมองไปยังเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนน่ารักกำลังวิ่งลงบันไดมายังชั้นล่าง เส้นผมสีน้ำตาลเข้มเด้งดึ๋งๆไปตามจังหวะก้าวลงบันได ผิวกายขาวสะอาดอย่างลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักมาอย่างดี ผสานกับหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่ออกไปทางผู้เป็นแม่เสียมากกว่า
            ผู้มีศักดิ์เป็นอานั่งมองดอกไม้สีขาวสะอาดยามเช้าแล้วลอบยิ้มออกมาเบาๆ จิบกาแฟไปเรื่อยและแอบมองไปเรื่อยๆ.. สายตาเจ้าชู้ของเขามันเปิดเผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่รู้ตัว..

            เซฮุนเป็นน้องชายของพ่อเสี่ยวลู่.. อ่านไม่ผิดหรอกครับ น้องชายจริงๆ แต่เป็นน้องชายที่อายุห่างกว่าสิบห้าปี และปีนี้เซฮุนก็มีอายุยี่สิบสามปี หลังจบมหาวิทยาลัยก็ได้เข้ารับตำแหน่งบริหารในบริษัทของตระกูลทันที งานรัดตัวจนแทบไม่มีเวลากระดุกกระดิกไปไหน แม้แต่เวลาจะหาผู้หญิงมาควงข้างกายก็ยังไม่มี แต่อาจจะเป็นเพราะเขาไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลยก็เป็นได้..
            หลานชายตัวเล็กเดินลงมาถึงชั้นล่างของบ้าน วิ่งฉิวเข้าไปในห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาหนึ่งขวด กระดกดื่มทันทีด้วยความกระหายโดยไม่สนใจว่าตนเป็นลูกคุณหนูต้องเพียบพร้อมผู้ดีใช้แก้วน้ำ
เพราะตอนที่อยู่กับอาฮุน.. เสี่ยวลู่ทำตัวได้ตามสบายทุกอย่างเลย

อาฮุนตามใจเสี่ยวลู่..
แล้วก็รักเสี่ยวลู่มากๆเลยด้วย

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สายเลือดแท้ๆกันก็ตาม.. เพราะพี่ชายของเซฮุนแต่งงานใหม่กับแม่ของเสี่ยวลู่ แต่แต่งไปได้ไม่ทันจะครบปีแม่ของเสี่ยวลู่ก็เกิดอุบัติเหตุจนกระทั่งเสียชีวิตทันที ในตอนนั้นเสี่ยวลู่อายุแค่หกขวบ.. เด็กน้อยน่าสงสารที่แทบไม่เหลือใครนอกจากพ่อเลี้ยงกับเขาซึ่งเป็นอาต่างสายเลือด เซฮุนกับพี่ชายของเขาจึงเลี้ยงดูเสี่ยวลู่อย่างดีไม่ให้ขาดตกบกพร่องหรือมีปมด้อยใดๆมาทำให้แก้วใสๆใบนี้บุบสลาย
           
            มองดูหลานมาตั้งแต่เด็กๆ.. จนกระทั่งโตขึ้นมาน่ารักขนาดนี้..
            สายตาเจ้าชู้ราวกับเสือจ้องจะขย้ำเหยื่อตัวน้อยมองหลานชายที่กำลังดื่มน้ำอยู่ไม่ไกล ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเล็กน้อย ด้วยความกระหายทำให้ดื่มน้ำไม่ระวัง บางส่วนไหลเลอะลงมาตามมุมปาก
            อึก..
            เซฮุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แทบสำลักกาแฟด้วยความเผลอเพราะเอาแต่มองหลานตัวเองดื่มน้ำ.. เมื่อเด็กน้อยปิดตู้เย็นเขาก็ทำเบนสายตามาสนใจจอทีวีแทน หัวใจของชายหนุ่มแกว่งไปมาแผ่วเบา..

            ไม่รู้ว่ามันเกิดความรู้สึกนี้กับหลานชายของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะเขามองดูเสี่ยวลู่มาตั้งแต่หกขวบจนกระทั่งตอนนี้เสี่ยวลู่อายุสิบห้าปีแล้ว.. เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กน้อยแสนซนคนนี้มีอะไรที่ทำให้เขาใจเต้นได้..

            “อาฮุนนนนนนนนนนนนนนนนน”
            เสียงหวานใสราวกับเครื่องดนตรีแก้วเอ่ยเรียกผู้เป็นอาพร้อมกับวิ่งดุ๊กๆเข้ามาหา เซฮุนวางแก้วกาแฟลงพร้อมกับปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยิ้มรับหลานที่เข้ามาออดอ้อนเหมือนทุกๆเช้า.. ใบหน้าหวานๆ รอยยิ้มหวานๆ.. มันทำให้หัวใจของชายหนุ่มรู้สึกมีความสุข แต่พักหลังมานี้มันกลับเพิ่มความสั่นไหวแปลกๆเข้ามาด้วย..

            “ว่าไงครับเสี่ยวลู่ หื้ม”
            ร่างเล็กโถมตัวเข้าใส่อาอย่างที่มักทำทุกๆเช้า ขยับขึ้นนั่งคร่อมบนตักแล้วยื่นริมฝีปากเล็กๆเข้าไปโป๊ะๆอาฮุนหลายๆที สองมือน้อยเกาะอยู่บนไหล่กว้าง เสี่ยวลู่ทำแบบนี้มาตั้งแต่เจ็ดขวบ จนกระทั่งอายุสิบห้าแล้วก็ยังติดแสดงความรักกับอาแบบนี้เป็นประจำ หลานอาจจะไม่ได้คิดอะไร..
            แต่คนเป็นอากำลังโคตรจะสุขใจและกลั้นฟินชิบหาย..
           
            ผีเสื้อตัวน้อยแสนบริสุทธิ์.. ใครๆก็อยากเข้ามาจับ

            มือแกร่งอันสั่นเทาค่อยๆเอื้อมไปโอบเอวบางๆให้กระชับเข้ามา รู้สึกเป็นอาหื่นๆยังไงชอบกล..
“อ้อนเก่งนักนะเรา”
            “อาฮุนคนเก่งของเสี่ยวลู่ จุ๊บ”
            “เสี่ยวลู่คนเก่งของอาฮุน จุ๊บ”
           
            ปากนุ่มๆนั้นมันน่าเอาลิ้นสอด.. เฮ้ย! หลานเว้ยหลาน ไอ้เซฮุน ท่องไว้ว่าเสี่ยวลู่เป็นหลาน!
            แทบจะยกมือขึ้นตบปากตัวเองเพราะกลัวจะเผลอไผล หากแต่ผีเสื้อตัวน้อยก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เอาแต่ส่งยิ้มหวานมาให้แล้วหยอกล้อกับผู้เป็นอาต่อไปอย่างที่ตนเคยทำ
           
            “เสี่ยวลู่โตแล้วนะลูก เลิกไปอ้อนอาฮุนเค้าแบบนั้นได้แล้ว” เสียงของผู้เป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน พี่ชายของเขาหรือพ่อของเสี่ยวลู่นั่นเอง.. ประธานบริษัทใหญ่เดินลงจากบันไดและเอ่ยดุเสี่ยวลู่ทีเล่นทีจริง แต่มันกำลังสร้างความขุ่นในใจให้กับผู้เป็นอาเป็นอย่างมาก
            มือน้อยเลื่อนมาโอบรอบคอของอาไว้อย่างหวงแหน ก่อนจะหันไปมองผู้เป็นพ่อตาใสแป๋ว.. ลูกชายคนเล็กก็อย่างนี้.. เหมือนแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้าน

            “โห่พี่ ถึงเสี่ยวลู่จะโตแล้ว แต่ผมก็ยังมองหลานเป็นเด็กตัวเล็กๆอยู่ดีแหละครับ” โกหกครับ..
            “ฮึ เสี่ยวลู่โตแล้วนะ จะสูงเท่าอาฮุนแล้วด้วย”
            “ใช่ลูก หนูโตแล้วนะครับ ไปโดดใส่อาฮุนอย่างนั้นเดี๋ยวอาเค้าจะหนักนะ” ไม่หนักครับ ไม่หนัก..
            “มันจะเป็นอะไรไปล่ะครับแค่อาโป๊ะๆกับหลานเอง” เซฮุนโต้บ้าง
            “เนอะอาฮุนเนอะ” เด็กน้อยพยักหน้าเห็นด้วย
            “ครับ ปะป๊าเสี่ยวลู่พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย”
            ใบหน้ากลมยิ้มแป้นเมื่อเห็นว่าอาฮุนอยู่ฝั่งเดียวกับตน พร้อมกับยื่นปากเล็กๆไปจุ๊บกับอาฮุนอีกหลายจุ๊บ อาฮุนน่ารักที่สุดในโลกเล้ย!

            ผู้ที่อายุเยอะที่สุดในบ้านพ่นลมหายใจออกมาเบาๆอย่างอ่อนใจและยิ้ม.. มองภาพน่ารักๆของอาหลานที่แลกจุ๊บกับอยู่บนโซฟา ส่วนใหญ่จะเป็นเสี่ยวลู่มากกว่าที่อยากจุ๊บกับอาเพราะสนิทกับอามาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งสองคนมีความผูกพันกันมากมายเหลือเกิน ในตอนแรกก็นึกว่าเจ้าเซฮุนจะเกลียดหลานตัวเองซะอีกเพราะลู่หานหรือเสี่ยวลู่เป็นลูกติดภรรยาใหม่ของเขา แต่เปล่าเลย.. มันกลับตรงกันข้ามเสียด้วยซ้ำ เสี่ยวลู่ไปไหน อาฮุนไปด้วย ตัวติดกันอย่างกับพ่อลูกแน่ะ
           
            “เอ้อเซฮุน วันนี้พี่มีประชุมต่างจังหวัด กลับพรุ่งนี้ค่ำๆนะ ฝากดูแลบ้านกับดูแลเสี่ยวลู่ด้วยล่ะ”
            “จริงหรอครับ!
            “อือ ตกใจอะไร”
            พี่ชายมองหน้าตาตื่นเต้นของเซฮุนอย่างสงสัย ได้แต่ทำหัวเราะกลบเกลื่อนไปแล้วอุ้มเสี่ยวลู่ลงจากตัก มองดูนาฬิกาก็พบว่าจวนเจียนจะถึงเวลาเข้าแถวของหลานชายแล้ว
            “เปล่าครับพี่ เดินทางปลอดภัยนะครับ ป่ะเสี่ยวลู่ ไปโรงเรียนได้แล้วครับเดี๋ยวสาย”
            เซฮุนไหว้พี่ชาย ส่วนเสี่ยวลู่วิ่งไปกอดปะป๊าพร้อมกับจุ๊บแก้มซ้ายขวาเหมือนทุกวันและไม่ลืมที่จะไหว้ลาผู้เป็นพ่อ ก่อนที่คนตัวเล็กจะถูกอาฮุนจูงมือไปขึ้นรถที่หน้าบ้าน
           
            เด็กชายตัวเล็กในชุดนักเรียนสะพายเป้สีครีมเปิดประตูรถหรูแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนคนขับนั้นก็กำลังปิดประตูรถเช่นกัน เซฮุนจะไปส่งเสี่ยวลู่ไปโรงเรียนทุกเช้าและไปรับกลับในทุกเย็นเพราะโรงเรียนเสี่ยวลู่เป็นทางผ่านระหว่างบ้านกับบริษัทพอดี
            “เดี๋ยวอารัดเข็มขัดให้นะ”
            “ครับ”
            หัวกลมผงกขึ้นลง ผู้เป็นอาเอี้ยวตัวเข้าไปใกล้ๆหลานพร้อมกับดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาหวังจะคาดให้กับคนตัวเล็ก เซฮุนยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นว่าเสี่ยวลู่นั้นนั่งนิ่งรอให้เขาคาดเข็มขัดให้ ดวงตากลมสดใสนั้นทำให้เขาอดใจไม่ไหว
            “โอ๊ะๆ อาฮุนเสียหลักครับ”
            ฟอด..
            “อาฮุนอ่ะ” คนตัวเล็กมองค้อน แต่แก้มกลมๆนั้นขึ้นสีแดงเป็นลูกมะเขือเทศที่โดนขโมยหอมแก้มเข้าอย่างจัง เซฮุนกลั้นยิ้มแล้วเสียบตัวล็อกเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย ก่อนจะคาดให้กับตัวเองบ้าง
            “เสียหลักจริงๆครับ”
            “ขับรถไปเลยอาฮุน..”
            “งอนอาหรอ หื้ม เดี๋ยวนี้กล้างอนอาแล้วหรอ”
            เซฮุนกอดอกทำทีเป็นงอนกลับ ทำให้คนตัวเล็กหันไปมองว่าอาฮุนของตนนั้นงอนจริงๆหรือเปล่า ร่างเล็กยืดตัวขึ้นไปหอมแก้มผู้เป็นอาฟอดใหญ่.. ทำให้เซฮุนหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

            “คิก.. อาฮุนน่ารัก เสี่ยวลู่งอนไม่ลงหรอก”

            เสี่ยวลู่ครับ..
            ถ้ามีปืน ก็เอามายิงอาฮุนเลย..
            ถ้ามีระเบิด ก็เอามายัดปากอาฮุนเลยนะ..
            ถ้ามีธนู ก็ยิงมาปักหัวใจอาได้เลยครับ..



            หน้าโรงเรียน
            เมื่อรถจอดหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน มือบางก็ปลดเข็มขัดนิรภัย สะพายกระเป๋าไว้ด้านหลังเตรียมลงจากรถ
            “เดี๋ยวตอนเย็นอามารับนะ ตั้งใจเรียนนะครับ”
            “ได้เลยครับ” เด็กชายยิ้มตาหยี
            “เป็นเด็กดีอย่างนี้ เดี๋ยวตอนเย็นอาฮุนพาไปกินไอติม โอเคมั้ย”
            “จริงนะอาฮุน!
            “จริงสิครับ ไหนโป๊ะๆหน่อย”
            เขาทำปากจู๋รอ ไม่นานกลีบปากเล็กๆนั้นก็ยื่นเข้ามาจุ๊บกับปากของเขาสองสามครั้งแล้วผละออกไป สีหน้าดีใจของเสี่ยวลู่ทำให้คนมองพลอยดีใจตามไปด้วย
            “เสี่ยวลู่ไปเรียนแล้วนะอาฮุน”
            “ครับ”
            มือน้อยพนมไหว้อาก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ นึกดีใจไม่น้อยที่อาฮุนใจดีกับตนเองอย่างนี้ วันนี้ปะป๊าไม่อยู่ด้วยอาฮุนจะพาเสี่ยวลู่ไปเที่ยวจนค่ำก็ยังได้เลย ไปกินบุฟเฟ่ต์ให้พุงกาง ดูหนังหรือร้องคาราโอเกะก็ทำได้ เป็นเพราะปะป๊าของเสี่ยวลู่ไม่ชอบให้กลับบ้านค่ำๆดึกๆ นานๆทีอาฮุนถึงจะพาไปเที่ยวสักที..
            วันนี้เสี่ยวลู่ต้องมีความสุขมากแน่ๆเลย..


           

            “เซฮุน..”
           
            “โอเซฮุน”

            “ไอ้ฮุน!
            “เฮ้ย!
            เสียงตะโกนเรียกใส่หูพร้อมกับเสียงแฟ้มฟาดโต๊ะดังป๊าบทำให้คนที่กำลังเหม่อลอยหลุดออกจากภวังค์ เป็นคริสนั่นเองที่เข้ามาเรียกสติถึงในห้องทำงาน ชายหนุ่มตัวสูงโปร่งวางแฟ้มงานลงบนโต๊ะแล้วมองหน้าของเซฮุนขำๆ คิดอะไรอยู่ถึงได้ทำสายตาเจ้าชู้ไปหูแดงไปวะ
            “เป็นไรวะ เหม่อถึงสาวหรอ”
            “บ้าหรอ ฉันมีที่ไหนล่ะ”
            เซฮุนพูดปัดๆก่อนจะหยิบแฟ้มงานมาเปิด
            คริสหรี่ตาลงและมองจ้องมาอย่างจับผิด.. เหม่อในเวลางานแบบนี้ คนเก่งและเคร่งครัดกฏระเบียบอย่างเซฮุนน่ะหรอจะทำ แบบนี้มันไม่ปกติน่ะสิ..
           
            โกหกคนอื่นได้ แต่โกหกใจตัวเองไม่ได้.. เซฮุนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วโยนปากกาใส่ลูกน้องที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนซี้มาด้วย คริสรับปากกาแท่งละหลายพันนั้นไว้ก่อนที่มันจะหล่นลงพื้นพังไป
            “มีปัญหาอะไรทุกข์ใจหรอครับคุณรองประธานโอเซฮุน”
            “เปล่าหรอกน่า”
            “โกหกชัดๆ”
            “ฮึ.. ก็รู้นี่”
            เซฮุนยิ้มมุมปาก.. ก่อนจะคิดถึงภาพผีเสื้อบริสุทธิ์ตัวน้อยที่บินว่อนอยู่ในหัวของเขาทั้งวัน.. คิดถึงเสี่ยวลู่ไม่พอ ใจไม่รักดียังคิดจินตนาการไปถึงเสี่ยวลู่กับเขากำลัง.. บ้าเอ๊ย!
            ฉับพลันหูก็แดงเถือกขึ้นมาอีกระลอก นั่นทำให้คริสที่กำลังมองอย่างสอดรู้สอดเห็นยิ่งตบเข่าฉาดใหญ่ ก็เห็นเงียบๆไม่มองผู้หญิงมานานตั้งแต่เรียน สงสัยลายเสือกำลังจะออกซะแล้ว.. มันคงไม่แปลกถ้าเซฮุนจะรู้สึกอึดอัดในใจ ชายหนุ่มวัยกำลังไฟแรงอย่างนี้ ถ้าไม่รู้สึกอะไรสิแปลก

            หากแต่สีหน้าของเซฮุนนั้นมันดูอึดอัดยิ่งกว่าที่คิด ทำให้คริสต้องถามออกไปจะได้ช่วยถูก
ตกลงว่าเขินหรือเครียดกันแน่วะ
ฉันว่าฉันเครียดมากกว่า
งั้น..
คริสเงียบไปนิดหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ

สนใจแอลกอฮอล์ล้างความเครียดมั้ย




เด็กนักเรียนชายร่างบอบบางนั่งรออาหนุ่มอยู่ที่หน้าโรงเรียน ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก็พบว่าอาฮุนเลทมากๆแล้ว.. อยากจะโทรถามแต่ก็กลัวจะไปรบกวนเผื่อว่าอาฮุนจะติดประชุม
แกว่งขาสลับไปมาบนม้านั่ง รอผู้เป็นอามารักษาสัญญาที่ว่าจะพาไปกินไอติม ฉับพลันแก้มกลมก็ยกยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดีในทันตา..

ไม่นานรถคันหรูที่แสนคุ้นเคยก็เลี้ยวเข้ามาจอดเทียบ เสี่ยวลู่สังเกตว่าอาฮุนขับรถเป๋ไปมานิดหน่อยและเบรกจอดรุนแรงกว่าเคย ร่างเล็กวิ่งดุ๊กๆไปเปิดประตูรถพร้อมกับกระโดดขึ้นนั่งด้วยความดีใจที่จะได้ไปกินไอติมอร่อยๆ หากแต่เมื่อเข้ามานั่งในรถก็ต้องย่นจมูกทันทีเมื่อได้กลิ่นเหล้าหึ่งเลย..
อาฮุนดื่มเหล้ามาหรอ
นิดหน่อยครับ พอดีไปกับเพื่อนน่ะ เสียงที่ตอบนั้นยานคางเหลือเกิน..
เด็กน้อยเงียบไปนิด ก่อนจะขออนุญาตลงจากรถไปนั่งเบาะด้านหลังเพราะกลิ่นเหล้าของอาฮุนมันเหม็นมากๆ เสี่ยวลู่ไม่ชอบเลย..

อาฮุนจะยังพาเสี่ยวลู่ไปกินไอติมอยู่มั้ย
เสียงใสเอ่ยถามอย่างมีความหวัง ทั้งที่ในใจก็ทำใจไว้แล้วครึ่งต่อครึ่ง อาฮุนเมาอย่างนี้จะพาไปเดินห้างกินไอติมได้ยังไง มันคงจะไม่สนุก.. รถเคลื่อนตัวไปบนถนนเรื่อยๆ เป๋ไปบ้างตามที่สติของคนขับจะยังพอมี เขาเองก็พยายามขับให้ปลอดภัยที่สุดเพราะมีแก้วตาดวงใจนั่งอยู่ในรถด้วย
วันหลังได้มั้ยครับคนเก่ง วันนี้อาว่าคงไปไม่ได้แล้วแหละ
ครับ..
น้ำเสียงหงอยลงไปถนัดตา.. เด็กน้อยกำลังรู้สึกผิดหวัง..

อาฮุนไม่เคยไปดื่มเหล้าแล้วก็มารับเสี่ยวลู่แบบนี้ ถึงจะเข้าใจว่าอาฮุนเค้าโตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานแล้ว แต่ด้วยวิสัยของเขาแล้วนั้นไม่ใช่คนที่จะติดเหล้าเมายาแบบนี้ และอีกอย่างที่ผิดหวังก็คือ..
อาฮุนไม่รักษาสัญญากับเสี่ยวลู่..


เมื่อมาถึงบ้าน เด็กน้อยก็รีบวิ่งขึ้นห้องของตนทันที เซฮุนเดินปลดเนกไทเข้ามาภายในบ้าน มีหญิงรับใช้เก่าแก่มารับกระเป๋าและสูทของเขาไปเก็บให้
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหรู ถึงแม้ว่าสติมันกำลังมึนยังไม่เข้าที่ก็ตามแต่เขาก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันแย่กับเสี่ยวลู่แค่ไหน ไม่มาเป็นเขาไม่มีวันรู้หรอกว่าการข่มใจไม่ให้คิดอะไรกับหลานตัวเองมันยากเหลือคณานับ เขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ผีเสื้อตัวน้อยแสนสวยอย่างเสี่ยวลู่อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ.. แต่เขากลับไม่กล้าคว้ามาไว้ในครอบครองทั้งที่ในใจอยากจับมาขังใส่ขวดโหลเสียด้วยซ้ำ
กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งทำให้เขาเองก็รู้สึกขยะแขยงตัวเองอยู่เช่นกัน บ้าเอ๊ย.. ดื่มเหล้าแล้วมันกลับทำให้เครียดกว่าเดิมเสียอีก ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมาเลย..
อยากลืมก็ยิ่งกลับจำ

แต่มันก็ทำให้เขาแน่ใจในสิ่งๆหนึ่ง.. นั่นก็คือเขาคิดเกินเลยมากกว่าอาหลานกับเสี่ยวลู่จริงๆ..




เด็กน้อยในชุดนอนลายทางสีขาวสะอาดพร้อมกับกอดตุ๊กตาหมีไว้ในอ้อมแขน เดินวนไปวนมาอยู่หน้าประตูห้องของตนราวกับกำลังมีเรื่องครุ่นคิดไม่สบายใจ

จนในที่สุดก็ตัดสินใจกับตัวเองว่าจะออกไปคุยกับอาฮุนให้รู้เรื่อง อยากให้อาฮุนรู้ว่าเสี่ยวลู่เป็นห่วงมากๆนะ.. มือบางกำลังจะบิดลูกบิดกระตูห้องของตนเองออกไปแต่ก็ต้องสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูเสียก่อน
แกร๊ก..

อาฮุน
เสียงหวานเอ่ยเรียกแผ่วเบา พร้อมกับกอดตุ๊กตาหมีแน่นเอาหน้าซุก เซฮุนในชุดลำลองอยู่บ้านสบายๆ ตัวหอมแล้วเพราะเขาอาบน้ำก่อนจะมาเจอเสี่ยวลู่ เขารู้ว่าเสี่ยวลู่ไม่ชอบที่ตัวเขาเหม็นเหล้า..
ต่างฝ่ายต่างกระอักกระอ่วนไม่กล้าพูดอะไรออกมาทั้งที่สนิทกันมากแท้ๆ.. บางทีเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้แหละที่ทำให้คนใกล้ชิดผิดใจกัน

จนในที่สุดเซฮุนก็ดันร่างเล็กเข้าไปในห้องแล้วปิดล็อกประตู เสี่ยวลู่ยังคงกอดตุ๊กตาหมีเอาหน้าซุกอยู่อย่างนั้นเหมือนกับเมื่อเจอคนที่อยากจะพูดด้วยแล้วคำพูดมันกลับหายวับไปในทันตา ผู้เป็นอาเดินไปนั่งบนเตียงนุ่มๆของหลาน ก่อนจะตบตักตัวเองพร้อมกับเรียก
คนเก่ง.. มาให้อาฮุนโป๊ะๆหน่อยเร็ว

คนถูกเรียกนิ่งไป.. แต่ไม่นานก็สลับเท้าน้อยๆเดินเข้ามาหาอาฮุนคนใจดีที่สุด กระโดดขึ้นนั่งคร่อมตักอย่างเช่นทุกครั้งจนกระทั่งใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่มาก หากแต่เสี่ยวลู่ก็ยังไม่ยอมปล่อยกอดจากเจ้าตุ๊กตาหมีและไม่ยอมโป๊ะๆกับอาฮุน

ไม่อยากโป๊ะๆกับอาฮุนแล้วหรอ ไม่รักอาฮุนแล้วหรอครับ
ไม่ใช่นะ..
งั้นก็วางตุ๊กตาลงนะ เด็กดีต้องกล้าที่จะพูดและรับฟังผู้ใหญ่นะครับ

เด็กน้อยดูเหมือนไม่กล้า.. แต่สุดท้ายก็ค่อยๆดึงตุ๊กตาหมีออกไปและวางลงบนเตียง จนกระทั่งระหว่างเราสองคนไม่มีอะไรมาขวางกั้นอีกต่อไป เซฮุนทำปากจู๋รอให้เสี่ยวลู่เอาปากเล็กๆนั้นเข้ามาชนจุ๊บอย่างเคย ไม่นานเสี่ยวลู่ก็ค่อยๆวางมือลงบนไหล่กว้าง เลื่อนใบหน้าเข้าไปโป๊ะๆกับอาฮุนอย่างขัดเขินด้วยเพราะว่ายังมีอะไรในใจอยู่

อาขอโทษนะ พอดีอาเครียดนิดหน่อยน่ะ
เสี่ยวลู่ไม่โกรธหรอก แค่น้อยใจ..
น้อยใจอะไรไหนเล่าให้อาฟังซิครับ
เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและยื่นใบหน้าเข้าไปจุ๊บกลีบปากเล็กๆสีชมพูนั้นอีกที

เสี่ยวลู่แค่เป็นห่วงอาฮุน เห็นอาฮุนไม่โอเค เสี่ยวลู่ก็ไม่โอเค..
โอ๋เด็กน้อยของอา อาฮุนขอโทษนะครับ อาฮุนสำนึกผิดแล้ว
วันนี้อาฮุนทำตัวไม่ดีเลย
ต่อไปนี้อาฮุนจะทำตัวดีๆครับ
...
สัญญาเลย
            เมื่อได้ยินคำว่าสัญญา เด็กน้อยก็สะดุ้งทันทีจนคนที่อายุมากกว่าตั้งท่าจะโป๊ะๆกลับสะดุ้งตามเสียอย่างนั้น

            เป็นอะไรครับเสี่ยวลู่
            อาฮุนยังทำตามสัญญาอันเก่าไม่ได้เลย จะสัญญาอันใหม่อีกแล้วหรอ
            หืม..
            อาฮุนจะพาไปกินไอติมไง
            เสียงใสเอ่ยอย่างงอนๆทำให้ผู้เป็นอาอดไม่ไหวเข้าไปจุ๊บปากพร้อมกับฟัดแก้มกลมทั้งสองข้างอย่างเอ็นดู เสี่ยวลู่ไม่หือไม่อืออะไรเขาก็จับหลานฟัดอยู่อย่างนั้น ทั้งจุ๊บทั้งหอมไปทั่วใบหน้า เด็กน้อยพึ่งอาบน้ำตัวหอมๆกลิ่นบริสุทธิ์มันทำให้เขาเริ่มเกิดอาการใจสั่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง.. อยากจะตบหน้าตัวเองหลายๆครั้งเพื่อดึงสติแต่ความรู้สึกมันชัดเจนจนไม่สามารถหลีกหนีได้อีกต่อไปแล้ว

            ไม่งอนอานะครับเด็กดี.. เดี๋ยวไม่น่ารักนะ
            อาฮุนต้องน่ารักกับเสี่ยวลู่ก่อน.. อือ เสี่ยวลู่ถึงจะน่ารักกับอาฮุน
            อาฮุนต้องทำยังไงน้า.. เสี่ยวลู่ถึงจะบอกว่าอาฮุนน่ารัก
            เซฮุนเอาหน้าผากชนกับหน้าผากหลาน ใช้จมูกโด่งๆเขี่ยจมูกรั้นน่ารักของเสี่ยวลู่ไปมาอย่างเย้าหยอก สายตาคมเจ้าชู้บวกกับรอยยิ้มมุมปากเล็กๆทำให้เด็กน้อยหลุดยิ้มออกมาจนได้

            อาฮุนน่ารักแล้ว..
            งั้นต่อไปเสี่ยวลู่ต้องน่ารักกับอาฮุนนะครับ
            ตากลมใสซื่อมองผู้เป็นอาอย่างไร้เดียงสา มองสบตาคมสื่อความหมายที่ล้นใจ.. เซฮุนยิ้มให้กับคนน่ารักตรงหน้า ก่อนจะใช้มือเรียวเชยคางมนขึ้นมา ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มๆนั้น เด็กน้อยมีความตกใจเล็กน้อยที่เขาไม่ผละออกไปเหมือนทุกที เพราะมันไม่ใช่การจุ๊บ
            มันคือจูบ..

            ลิ้นอุ่นค่อยๆดันกลีบปากให้เปิดเผยอออกเพื่อที่เขาจะได้เข้าไปกวาดชิมน้ำหวานภายใน.. เด็กน้อยผู้ไม่ประสาก็ถูกชักจูงอย่างง่ายดาย ไม่นานเซฮุนก็ได้ชิมความอ่อนหวานอย่างสมใจ..
            มือบางกำเสื้อบริเวณไหล่ของเขาแน่นทั้งสองข้างเมื่อได้รับความรู้สึกแปลกใหม่ มันทั้งตื่นเต้นและอบอุ่นในคราเดียวกัน เด็กน้อยไม่รีรอที่จะเรียนรู้มันอย่างสงสัย นั่นยิ่งทำให้หัวใจของชายหนุ่มพองโตมากมายเหลือเกิน..

            ทั้งสองละริมฝีปากออกจากกันโดยที่มีน้ำใสๆเชื่อมกันอยู่ เด็กน้อยอ้าปากของตนค้างอยู่อย่างนั้นราวกับกำลังสับสน ส่วนผู้เป็นอากำลังแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างพึงพอใจ พร้อมกับมีความรู้สึกหนึ่งกำลังเรียกร้องอยู่ในอก.. สะโพกนิ่มๆที่กำลังนั่งทับส่วนสำคัญ มันช่างยั่วยวนเหลือเกิน..
            จนทำให้สิ่งที่หลับใหลอยู่นั้นตื่นขึ้นมาอย่างง่ายดาย..

            เสี่ยวลู่.. อยากกินไอติมมั้ยครับ
            ก็.. ครับ
            เซฮุนยิ้มมุมปาก ก่อนจะจับเอวบางอุ้มลงจากตักของเขาจนกระทั่งร่างน้อยนั่งอยู่บนพื้นระหว่างขา สีหน้าไร้เดียงสาบวกกับแก้มกลมขึ้นสีแดงนั้นทำให้ใจของเขาสั่นไหวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เซฮุนจับมือน้อยให้ขึ้นมาจับขอบกางเกงของเขา

            แกะกระดุมแล้วก็รูดซิปลงสิครับ
            ตาใสๆนั้นมองมาเหมือนจะตั้งคำถาม แต่สุดท้ายก็ไม่ถามอะไรออกมา มือน้อยอันสั่นเทาค่อยๆปลิดกระดุมและรูดซิปลง.. มือแกร่งกดหัวกลมๆให้เข้ามาใกล้มากขึ้นจนกระทั่งใบหน้าน้อยจ่ออยู่ที่กางเกงชั้นในสีกรมท่าของเขา ดวงตากลมช้อนมองเขาอย่างไร้เดียงสาและไม่รู้ว่าตนจะต้องทำยังไงถึงจะเรียกได้ว่าน่ารักกับอาฮุน และก็ยังไม่เข้าใจคำว่าไอติมของอาฮุนเลย..
            เซฮุนค่อยๆดึงกางเกงชั้นในลงและดึงไอติมแท่งใหญ่ออกมา เสี่ยวลู่มีท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็ลูบเส้นผมนิ่มปลอบโยนไปมาอยู่อย่างนั้น

            เลียสิครับ

            เสียงของผู้เป็นอาพูดสั่งอย่างสบายๆ เด็กน้อยตัวสั่นเล็กน้อย แต่ก็ยอมส่งลิ้นเล็กๆน่ารักแตะตรงส่วนปลาย.. เพียงแค่นั้นก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกฟินจนแทบจะไม่ไหว..
            มือเรียวค่อยๆประคองหัวกลมกดเข้ามาใกล้มากขึ้นไปอีก สองมือน้อยจับต้นขาของเขาเอาไว้เพื่อประคองตัว เซฮุนจับแท่งไอติมร้อนๆของตัวเองเอาไว้แล้วถูไถบนกลีบปากเล็กๆนั้นไปมา..
            ทำเหมือนตอนเสี่ยวลู่กินไอติมนะ
            อะ..อือ
            เมื่อเด็กน้อยได้รับคำสั่งเขาก็ไม่รีรอจับแท่งร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากอุ่นๆ.. รู้สึกเหมือนกำลังดีดตัวเองลอยอยู่บนสวรรค์ชั้นที่มีความสุขที่สุดกับเด็กน้อยของเขา
            อย่างนั้นแหละครับ.. อา คนเก่ง
            แค่ก..
            สำลักออกมาเบาๆเมื่อส่วนปลายมันเข้ามาลึกจนเกินไป ปากเล็กๆกำลังดูดไอติมไปมา ใช้ลิ้นไล้วนอย่างเก้ๆกังๆเพราะมันคับปากไปหมด เสี่ยวลู่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่มันคืออะไร ได้แต่ทำไปเพราะอยากให้อาฮุนชมว่าน่ารักก็เท่านั้นเอง..

            เสี่ยวลู่.. น่ารักมากครับ อา..
            เหมือนหัวใจเด็กน้อยพองโตขึ้นมาในทันทีเมื่อได้ยินคำที่ตนรอคอย ปากเล็กเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็อู้อี้อยู่อย่างนั้นซ้ำยังทำฟันขบเข้าแท่งเนื้อนั้นโดยไม่รู้ตัว เซฮุนร้องซี้ดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่.. ความเสียวกระสันแล่นวาบเข้ามาจนอดรนทนไม่ไหว

            มือจับหัวกลมให้ขยับเข้าออกเป็นจังหวะเรื่อยๆ จนกระทั่งเพิ่มความถี่ขึ้นตามแรงอารมณ์
            น่ารักมากครับ อืม.. ซี้ด..
            เสียงดูดเลียน่ารักๆทำให้เขารู้สึกฟิน.. เสี่ยวลู่น่ารักเกินไปแล้ว..

            และไม่นานหยาดน้ำสีขาวขุ่นก็ทะลักเข้ามาจนเต็มโพรงปาก.. ราวกับไอติมละลาย
            แค่กๆ.. อาฮุน.. ฮือ
            เด็กน้อยงอแงเมื่อพบกับสิ่งแปลกใหม่ เซฮุนอุ้มเสี่ยวลู่ให้ขึ้นมานั่งทับบนตักอีกครั้งพร้อมกับกระตุกเกร็งไปด้วยเมื่อได้ปลดปล่อย..

            กลืนเข้าไปได้เสี่ยวลู่ หรือจะแบ่งกินกับอาฮุนดี
            เด็กน้อยยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้บ่งบอกว่าเลือกอย่างที่สองคือแบ่งกินกับอาฮุน ซึ่งเซฮุนเองก็ไม่ขัดข้อง โน้มใบหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากกินไอติมละลายนั้นไปพร้อมๆกับเด็กน้อยในอ้อมกอด เขาพึ่งจะรู้และไม่แปลกใจเลยที่เสี่ยวลู่จะตกใจจนงอแง ก็เขาปล่อยเยอะเสียขนาดนี้..

            รู้สึกฟิน.. และหัวใจพองโตขึ้นอย่างน่าประหลาด เสี่ยวลู่น่ารักจนเกินจะห้ามใจไหว นั่นคือสิ่งที่เขาคิดมาตลอดตั้งแต่น้องยังเด็กๆ..

            เขาจัดการใส่กางเกงติดกระดุมให้เรียบร้อย จับเด็กน้อยที่กำลังจะหลับเต็มทนด้วยความเหนื่อยวางลงบนเตียงแล้วห่มผ้าห่มให้จนถึงคอ จุ๊บหน้าผากมนเพื่อบอกฝันดีคนน่ารักน่าเอ็นดู.. เสี่ยวลู่อาจจะไม่คิดอะไร แต่อานี่ไปไกลแล้วครับ.. มันอาจจะผิดที่ตัวเขาเองที่ดันมาคิดอกุศลกับเด็กอายุสิบห้า
            แต่มันรักไปแล้วนี่หว่า.. ใครจะอดใจไหวกับความน่ารักของผีเสื้อตัวน้อยกันเล่า

            และก่อนที่เขาจะปล่อยให้หลานหลับ เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ต้องบอก ร่างสูงโน้มตัวไปกระซิบข้างๆหูคนตัวเล็ก

            อย่าบอกปะป๊านะครับ




           END
            #ไอติมอาฮุน