เด็กกว่าแล้วไง
– HUNHAN
#ผมเด็กกว่าแล้วไง
“ลูกฮุน กลับบ้านได้แล้วลูก เย็นแล้ว
พี่ลู่หานเค้าจะทำการบ้าน”
เสียงเด็กน้อยร้องไห้กระจองอแงลั่น
คำพูดอ้อแอ้ที่ลิ้นยังไม่แข็งแรงดีทำให้คนเป็นพี่ยิ้มขำ
คุณน้าข้างบ้านมองดูลูกชายในอ้อมอกของเธอที่ดิ้นไปมาไม่ยอมกลับบ้าน เอาแต่ยื่นมือจะไปหาเด็กชายวัยประถมอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
วันนี้ก็เล่นด้วยกันทั้งวันแล้ว..
เธอเอาลูกชายมาฝากไว้ที่บ้านนี้มากกว่าอยู่บ้านของตัวเองเสียอีก
ถ้าวันไหนลูกชายของเธอไม่ได้มาเจอหน้าพี่ลู่หานก็ร้องไห้งอแงจะเจอเสียให้ได้
ติดพี่ลู่หานมากกว่าติดแม่เสียอีก ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเซฮุนพูดได้แล้วจะจอมโวยวายแค่ไหน
นิสัยเสียจริงๆเลย..
โอ๋ก็แล้วเอาขนมล่อก็แล้วเด็กชายตัวน้อยก็ยังไม่หยุดร้องไห้เสียที
จนกระทั่งผู้เป็นแม่อ่อนใจ.. เด็กชายวัยประถมกำลังดูโตหากแต่หน้าตากลับน่ารักจิ้มลิ้มขึ้นทุกทียื่นมือไปจับอุ้งมือน้อยๆของน้องชายข้างบ้าน
เด็กน้อยทำปากเบะสะอึกสะอื้นฮักๆใส่อย่างน่าสงสาร น้ำตาก็ไหลหยดแหมะๆ
“คุณน้าครับ ผมขออุ้มน้องฮุนหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้จ้ะ”
“โอ๋.. มาๆ หยุดร้องน้า..”
สองแขนบางเอื้อมไปรับร่างกะปุ๊กลุ๊กมาอุ้มไว้
มือป้อมน้อยโอบรอบคอพี่ชายเอาไว้ราวกับหวงแหนและจะเอากลับบ้านด้วย เด็กเอาแต่ใจ..
“กลับบ้านนะครับน้องฮุน
คุณแม่เหนื่อยแล้วเห็นไหม.. เดี๋ยวพรุ่งนี้เลิกเรียนเราค่อยมาเล่นกันอีกนะ”
“ฮึก..ฮือ..”
“เด็กดื้อไม่น่ารักเลยนะ
น้องฮุนต้องไม่ดื้อพี่ลู่หานถึงจะรัก”
เสียงสะอื้นฮักๆหยุดชะงักลงเมื่ออีกคนบอกว่าจะไม่รักคนดื้อ
เด็กน้อยผละแก้มกลมออกจากบ่าเล็ก
แล้วใช้ดวงตากลมๆภายใต้กรอบเรียวรีจ้องมองใบหน้าของผู้เป็นพี่
มืออบอุ่นเช็ดน้ำตาให้กับเด็กน้อยแล้วยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าน้องหยุดร้องไห้แล้ว
ผู้เป็นแม่ถึงกับประหลาดใจ.. เธอโอ๋จนเหนื่อยแต่ลูกชายของเธอก็ยังไม่หยุดร้อง แต่พอหนูลู่หานพูดแค่สองสามประโยคกลับหยุดร้องไห้เฉยเลย..
“กลับบ้านกันตัวดื้อ”
คุณน้ายิ้มเอ็นดูทั้งคู่แล้วยื่นมือไปรอรับลูกชาย
ลู่หานยื่นเด็กชายตัวป้อมๆส่งคืนให้กับคุณน้า
หากแต่อุ้งมือน้อยนั้นก็จับคอลู่หานหนุบหนับเป็นตุ๊กแก
จนกระทั่งเด็กชายอยู่ในอ้อมกอดของแม่แต่มือก็ยังไม่ปล่อยจากคอของลู่หาน แถมยังดึงรั้งเอาไว้จนลู่หานต้องเข้าไปอยู่ใกล้ๆ
รู้สึกหายใจไม่ออก..
และโดยไม่ทันตั้งตัว
ใบหน้าน้อยของเด็กข้างบ้านก็ยื่นเข้ามาจุ๊บแก้มลู่หานก่อนจะยิ้มเผล่
“ฮิ..”
ตาขีดเป็นสระอิ..
อุ้งมือน้อยโบกบ๊ายบายพี่ชายอย่างอารมณ์ดี
ก่อนจะถูกผู้เป็นแม่อุ้มเดินออกจากบ้านของลู่หานไป เด็กเจ้าเล่ห์..
เจ้าเล่ห์ตั้งแต่เด็กเลย..
“ขี้มูกน้องฮุนเปื้อนแก้มเลย..”
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ฤดูร้อนผ่านพ้นไปเกือบสิบหน..
ดอกกุกลาบที่ปลูกไว้แนวรั้วหน้าบ้านตายไปแล้วก็เกิดขึ้นมาใหม่เรื่อย
เด็กชายวัยกำลังโตอายุสิบขวบร่างจ้อยนั่งยองลงหน้าแปลงกุหลาบขาว
มองซ้ายขวาว่าแม่อยู่แถวนี้ไหม
เมื่อเห็นว่าทางสะดวกก็ลงมือง้างกรรไกรตัดก้านกุหลาบฉับ
“โอ๊ยๆ เจ็บชิบ!”
ใบหน้าที่กำลังออกหล่อคมเด่นชัดเหยเกเมื่อหนามของดอกไม้งามมันปักมือเข้าจนได้
หากแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากก้านของมันถึงแม้ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็ตาม
เพราะเขาจะไม่ยอมให้ดอกไม้หล่นลงพื้นเป็นอันขาด
กลีบกุหลาบขาวสวยๆต้องไม่เปื้อนดินใดๆ
เด็กชายใช้ปลายเสื้อนักเรียนพันรอบก้านที่มีหนามไว้ ดูดนิ้วที่มีเลือดซึมออกมานิดแล้วเช็ดเข้ากับกางเกง
ดวงตาเรียวคมมองกุหลาบขาวแล้วก็ยิ้มตาเป็นขีด..
ค่อยๆบรรจงใช้คมกรรไกรเกลาหนามกุหลาบออกให้หมด
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปปักมือสวยๆนั้น..
นึกถึงหน้าใครบางคนที่ลอยเข้ามาแล้วก็ยิ้มเผล่เป็นแป๊ะ.. แต่ฉับพลันก็รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าลงกลางหัว
ติ่งหูของเด็กชายโดนบิดดึงจากใครบางคนจนต้องลุกขึ้นยืน
สุ้มเสียงที่กำลังแตกหนุ่มร้องโอดโอย
“โอ๊ยๆๆ แม่! มันเจ็บนะ!”
“ทำอะไรห๊ะตัวแสบ
ขโมยตัดกุหลาบแม่อีกแล้วใช่มั้ย”
ผู้เป็นแม่ยืนค้ำเอวมองดูลูกชายที่กำลังใช้มือถูๆหูบรรเทาความเจ็บ
อีกมือก็กำดอกกุหลาบแน่น
“กุหลาบแม่อะไร ต้นนี้ผมปลูกเอง”
“ปลูกแค่วันเดียว
ที่เหลือแม่รดน้ำทุกวัน”
“เอาน่า แม่จะหวงอะไรนักหนา
ปลูกทิ้งไว้เดี๋ยวมันก็เหี่ยวตาย ผมขอละกัน ไปละนะแม่!”
เจ้าเด็กกะเปี๊ยกวิ่งแจ้นออกไปทันที
แต่ก็วิ่งไปได้ไม่ไกลหรอก มันวิ่งเลี้ยวเข้าบ้านข้างๆ..
ผู้เป็นแม่ส่ายหัวในความดื้อซนของเจ้าลูกชายคนนี้เสียจริง
แม่บอกอะไรไม่ค่อยจะฟังกันหรอก จริงๆกุหลาบน่ะไม่ได้หวงหรอก เธอมารดน้ำให้ทุกวันก็เพราะเห็นลูกชายของเธอมานั่งคุยกับมันทุกวัน
โตเร็วๆนะ.. จะเอาไปให้คนสวย..
บานเร็วๆนะ.. อย่าให้หนอนมากินด้วย..
คิดถึงแล้วก็อดยิ้มไม่ได้..
เธอก็สงสัยมาเสียนานว่าคนสวยที่เจ้าลูกชายพูดถึงน่ะคือใคร
ตัวเท่านี้หัดมีความรักแล้วหรือไง
แต่เมื่อเห็นว่าลูกชายเธอวิ่งไปที่ไหนเมื่อกี้นี้ เธอก็ไม่แปลกใจเลย..
ลูกชายของเธอรู้หรือยังน่ะ ว่าสิ่งที่ทำอยู่.. นั่นเค้าเรียกว่าอะไร..
มันกำลังผลิบานขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับดอกกุหลาบที่หมั่นฟูมฟักมานาน..
ก๊อกๆ
“พี่ลู่หาน”
เสียงแตกหนุ่มตะโกนเรียกคนในบ้านอย่างคุ้นเคยดีเพราะมาทุกวัน
ก่อนจะซ่อนดอกกุหลาบที่เกลาหนามเสร็จเรียบร้อยแล้วไว้ด้านหลัง
ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับประตูบ้าน.. เสียงลากเท้าเตาะแตะจากอีกฝั่งของประตูใกล้เข้ามา
ยิ่งทำให้หัวใจของหนุ่มน้อยเต้นแรง
แอ๊ด..
“ผมให้!”
มือป้อมยื่นดอกกุหลาบไปตรงหน้า
ก้มหน้าแดงฉ่าลงหลบไม่ให้อีกคนได้เห็น เสียงหัวใจเต้นดังตึกๆเป็นกลองเพล พี่ลู่หานจะชอบมั้ย..
หรือว่าชอบดอกกุหลาบสีอื่น.. แต่..แต่สีขาวเหมาะกับพี่ลู่หานที่สุดนะ
“คิกๆ..
ให้ป้าหรอลูก”
หากแต่เสียงของหญิงวัยกลางคนทำให้ความคิดฟุ้งซ่านหยุดลง
ใบหน้าออกหล่อคมเงยขึ้นมองขวับ
“เย้ย!” ร่างกะเปี๊ยกผงะเมื่อเห็นว่าเป็นแม่ของพี่ลู่หานที่มาเปิดประตูให้
“มาจีบป้าหรอ
ป้ามีแฟนแล้วนะ มีลูกแล้วด้วย”
“แล้วลูกคุณป้าอยู่ไหนอ่ะครับ..
พี่ลู่หาน”
“ยังไม่กลับบ้านเลยจ้ะ
อ้าวนึกว่าไปเล่นกับน้องฮุนซะอีก”
“เปล่านะครับ..”
เด็กชายทำตาโต
ก่อนจะกลอกตาซ้ายขวาไปมา คิ้วคมขมวดเข้าหากันแน่น
ทำไมพี่ลู่หานยังไม่กลับบ้านอีก.. ทุกเย็นเราต้องเล่นด้วยกันนี่นา
“พี่เค้าอยู่ม.หกแล้วนะลูก
อาจจะไปเที่ยวกับเพื่อนของเขาก็ได้” คุณป้าพยายามพูดปลอบเมื่อเห็นเด็กชายหน้าเครียดลงถนัดตา
“ไม่จริงครับ! เพื่อนพี่ลู่หานบ้านไกลต้องนั่งรถไฟกลับไม่มีเวลามาเที่ยวเล่นหรอกครับ
อีกอย่างพี่ลู่หานไม่เคยกลับบ้านช้า คุณป้าไม่คิดว่ามันน่าสงสัยหรอ”
เด็กชายตะโกนดังลั่น
คิดหาทางติดต่อพี่ลู่หานแต่ก็ไม่มีโทรศัพท์มือถือเพราะแม่ยังไม่ซื้อให้
“คุณป้าครับลองโทรหาพี่ลู่หานหน่อยสิครับ”
“จ้ะๆ”
เธอล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
รออยู่นานก็ไม่มีคนรับสาย มองดูเด็กตรงหน้าที่ร้อนรนใจอยู่ไม่นิ่งเป็นหนูติดจั่น
“ลู่หานไม่รับโทรศัพท์เลยลูก”
มือป้อมกำหมัดแน่นแล้วหมุนตัววิ่งออกไปจากบ้านทันที
คุณป้าชะเง้อมองตามหลังไวๆนั้นไป เธอก็นึกเป็นห่วงแต่ลูกชายของเธอก็อายุสิบแปดแล้ว
น่าจะดูแลตัวเองได้ แต่คนที่น่าเป็นห่วงกว่าน่ะคือหนูเซฮุนต่างหาก..
“แม่โทรมาแน่ะลู่หาน..”
“อะ..
เอาโทรศัพท์คืนมานะ”
พลั่ก!
“อั่ก..”
“เงินมีอยู่แค่นี้จริงๆหรอ..
บ้านนายไม่น่าจะจนนะ”
เด็กหนุ่มตัวสูงเขย่ากระเป๋าตังค์จนบัตรต่างๆหล่นกระจายลง
ใบหน้าร้ายนั้นมองคนที่นอนกุมท้องจุมปุ๊กอยู่กับพื้นดิน
ก่อนจะยื่นกระเป๋าตังค์ให้ลูกน้องที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง
“เช็คดูซิ
แล้วมึงก็ไปค้นตัวมัน ถ้าแม่งมีอุ๊บอิ๊บก็ยึดมาให้หมด”
พูดสั่งการลูกน้องเบอร์หนึ่งและเบอร์สอง
ร่างเล็กดันมือของคนที่กำลังจะมาค้นตัวเอาไว้
หากแต่ก็โดนต่อยเข้าที่แก้มขวาจนชาไปหมดและยอมแน่นิ่ง..
ใบหน้ามีรอยฟกช้ำและรอยแตกบางส่วน ตามตัวก็เปื้อนดินสกปรก..
“เฮ้ย
เบาหน่อย เดี๋ยวพ่อมึงก็แห่มาจัดการหรอก
เราแค่มาขอเงินไปเล่นเกมดีๆแต่แม่งไม่ยอมให้ดีๆ ก็เลยมีขู่กันนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
เสียงทุ้มหัวเราะหึๆในลำคอ
กอดอกมองดูเพื่อนร่วมสายชั้นที่กำลังถูกค้นตัวอยู่ตรงหน้า
ลู่หานไม่ได้เป็นคนแรกที่โดนคนพวกนี้รังแก พวกมันก็รังแกคนไปทั่วนั่นแหละ
ไถตังค์ไปเล่นเกมเล่นการพนัน ใครที่ไม่อยากเจ็บตัวก็ต้องยอมให้มันไป
แต่ก็จะกลายเป็นตู้เอทีเอ็มให้พวกมันกดตังค์อยู่อีกนานโข
แล้วแบบนี้ใครมันจะไปยอมให้..
“อยู่นิ่งๆสิวะ!”
หมัดหนักๆต่อยเข้าที่ท้องอีกครั้งจนร่างเล็กนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น
ขนาดตัวของพวกมันกับขนาดตัวของลู่หานมันแตกต่างกันขนาดนี้ใครจะไปสู้ไหว
“มันไม่มีตังค์จริงๆว่ะ”
“พกตังค์มาโรงเรียนแค่กินข้าวหรือไงวะ
สั่งสอนมันซิ.. ทีหลังให้เอาเงินมาเยอะๆ ให้พวกกูไถหน่อย..”
พลั่ก! ตุ๊บ!
“อึ่ก..”
“เฮ้ย! หยุดนะเว้ย!!”
เสียงตะโกนดังแทรกขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าวิ่งตุบๆเข้ามา
เด็กชายตัวกะเปี๊ยกผลักคนที่กำลังคร่อมร่างบอบบางออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มีจนมันกระเด็นออกไป
ก่อนจะกางแขนปกป้องพี่ลู่หาน ยืนประจันหน้ากับพวกมันอย่างไม่เกรงกลัวใดๆทั้งสิ้น
“ไอ้เปี๊ยก..”
นิ้วชี้ดันหน้าผากเด็กชายจนหงายไปนิด
ใบหน้าบูดบึ้งและแววตากร้าววาวโรจน์นั้นทำให้คนอันธพาลต้องหลุดขำออกมายกใหญ่
ตัวก็กะเปี๊ยกเดียว กลับไปกินนมแม่ไป
“ลู่หานแม่งมีองครักษ์เด็กปกป้องด้วยว่ะ
ฮ่าๆๆ พี่กลัวจังเลยว่ะน้อง..”
“ไปไหนก็ไปซะ!”
“หูย..
มีไล่ซะด้วย แล้วดอกกุหลาบนั้นถือมาจะให้พี่หรอ หน่อมแน้มจังเลยนะ”
“อย่ามายุ่งนะเว้ย! ดอกไม้ไม่เหมาะกับคนอย่างพวกแกหรอก
พวกแกมันเหมาะกับ.. กับต้นงิ้ว!”
“อ้าวไอ้เด็กนี่..”
“เล่นแม่งเลยดีมั้ย”
“เออ
สั่งสอนเด็กปากดีหน่อยดิ้”
หมัดหนักๆพุ่งตรงเข้าฮุคแก้มขวาของเด็กชายจนปลิวล้มลงกับพื้น
หลังจากนั้นก็โดนซัดไม่ยั้งมือยั้งตีนเลย..
เด็กน้อยพยายามกอดดอกกุหลาบสีขาวไว้แนบอกไม่ให้ช้ำหรือเปื้อนดินใดๆ ใช้ตัวปกป้องมันเอาไว้
ได้ยินเสียงพี่ลู่หานร้องห้ามพวกมันและพยายามยันตัวขึ้นมาปกป้องน้องเอาไว้แต่ก็ถูกพวกมันถีบซ้ำจนนอนจุกอยู่กับพื้นดังเดิม
“ฮู่ว..
กูเบื่อแม่งละ ไปดีกว่า อ่อนด๋อยชะมัด”
ได้ยินเสียงหักมือกรอบแกรบและเสียงฝีเท้าที่เดินห่างออกไป
เด็กชายตัวเปี๊ยกเปิดเปลือกตาขึ้น ดอกกุหลาบในอ้อมกอดยังคงอยู่ดี..
มีรอยฟกช้ำบ้างนิดหน่อย
เซฮุนยันตัวขึ้นนั่งเอี้ยวตัวไปหาพี่ลู่หานแต่ก็ต้องร้องโอ๊ยเมื่อพบว่าเจ็บเหมือนตัวจะแหลกเป็นเสี่ยงๆ
“น้องฮุน..
เจ็บมากมั้ย”
เสียงแหบกระท่อนกระแท่นเอ่ยถามทั้งที่ตัวเองนั่นแหละที่น่าเป็นห่วงที่สุด
เด็กชายวัยสิบขวบขยับเข้าไปใกล้แล้วช่วยพยุงร่างผู้เป็นพี่ให้นั่งบนพื้น
ดวงตารีคมกวาดมองใบหน้าหวานสวยที่มีรอบแตกรอยฟกช้ำเต็มไปหมด ลู่หานเองก็ขมวดคิ้วที่เห็นใบหน้าหล่อๆนี้มอมแมมจนแทบดูไม่ได้
“เจ็บใจชะมัด! ผมสู้อะไรมันไม่ได้เลย”
มือป้อมเอื้อมไปเช็ดเลือดที่ซึมตรงมุมปากให้คนเป็นพี่
สีหน้าดูเจ็บใจตามคำพูดจริงๆจนลู่หานแอบหัวเราะขำ อย่าว่าแต่น้องฮุนเลย
ตัวเขาเองก็ยังสู้ไม่ได้..
เด็กชายตัวน้อยยันตัวลุกไปเก็บกระเป๋าตังค์และการ์ดต่างๆของพี่ลู่หาน
พร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่พวกมันวางทิ้งไว้ข้างๆกัน มือป้อมพยุงตัวพี่ชายข้างบ้านให้ลุกขึ้นยืน
ก่อนจะได้รับรอยยิ้มสวยเป็นคำขอบคุณ แค่นี้หัวใจของหนุ่มน้อยก็ปริ่มล้นเต็มทน..
“กลับบ้านไปทำแผลกันดีกว่า โดนแม่ดุแน่ๆเลย..”
“ผมไม่กลัวแม่หรอก!”
“โอ๊ย! อูย.. เบาๆสิครับ”
เสียงแตกหนุ่มร้องโอดโอยเมื่อเจอแอลกอฮอล์ล้างแผล
พยายามกัดฟันทำเป็นไม่เจ็บอยู่ตั้งนานเพื่อโชว์ความเท่
หากแต่มันก็พังลงเมื่อความแสบมันแล่นปราดมาถึงก้านสมอง เราช่วยพยุงกันและกันจนเดินมาถึงบ้านของลู่หาน
คนที่บอกไม่กลัวแม่กลับไม่กล้าเข้าบ้านตัวเองเสียอย่างนั้น
ลู่หานก็เลยพาเซฮุนขึ้นมาทำแผลที่ห้องนอนให้ดูดีก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยจะพาไปส่งบ้าน
จะได้บอกเหตุผลกับคุณน้าด้วย..
แม่ของลู่หานเองก็ตกใจยกใหญ่ที่เห็นทั้งคู่เจ็บตัวกลับมา แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลว่าลูกของตนไม่ได้ไปเริ่มต่อยใครเขาก่อนก็เบาใจก่อนจะไล่ให้ขึ้นไปทำแผลบนห้องนอน
“ตัวกะเปี๊ยกเดียวไปสู้กับพวกมันก็ต้องโดนแบบนี้แหละ”
“คอยดูนะ โตขึ้นผมจะตัวสูงๆและแข็งแรง
ผมจะปกป้องพี่เอง”
เด็กชายพูดเสียงหนักแน่นแล้วกอดอก
คนเป็นพี่เห็นดังนั้นก็ยิ้มเอ็นดู..
“ครับๆ พ่อคนเก่ง
ไหนหันหน้ามาสิจะใส่ยาให้ หันหนีทำไม”
“ก็มันแสบนี่ครับ..”
เสียงใสหัวเราะคิกคัก
แล้วจึงล็อกหน้าเด็กแสบตรงหน้าเอาไว้ก่อนจะบรรจงใส่ยาให้อย่างเบามือ
ได้ยินเสียงร้องซี้ดอูยโอยในลำคอที่เขาพยายามกลั้น เจ้าเด็กนี่..
“พี่ลู่หานมือใหญ่จัง”
คนที่กำลังทำแผลให้ตัวเองหยุดชะงัก
คิ้วสวยเลิกขึ้นก่อนจะมองลงไปที่ผืนเตียงก็เห็นมือของเด็กชายตัวน้อยกำลังวางเทียบมือของเขาอยู่
ลู่หานยกมือขึ้น และมือของเด็กชายตัวน้อยก็ทาบประกบกัน
นิ้วป้อมๆนั้นสั้นกว่านิ้วของลู่หานเกือบข้อหนึ่ง
“ก็น้องฮุนยังเด็ก
มือพี่ก็ต้องใหญ่กว่าอยู่แล้ว”
เสียงหวานพูดบอกก่อนจะมองคิ้วขมวดของเด็กชายตรงหน้า
ดวงตาคมนั้นนิ่งเรียบราวกับเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
จนกระทั่งสายตานั้นมองตรงสบตากับลู่หาน..
“โตขึ้นผมจะมือใหญ่กว่านี้..
ผมจะต้องมือใหญ่กว่าพี่ลู่หาน”
ดวงตาเรียวคมนั้นมองสบตาหนักแน่นราวกับยืนยันคำพูดว่าเขาจริงจังแค่ไหน
มือป้อมนั้นผละออกมาก่อนจะผินสายตามองมือของตัวเอง กลีบปากบางขยับเป็นคำพูด
“มือเล็กแค่นี้ จับยังไม่มิดเลย
แล้วผมจะปกป้องพี่ได้ยังไง เวลาพี่หนาวแล้วจับมือผมคงไม่อุ่น”
“...”
“เมื่อไหร่ผมจะโตซะที.. โตช้าชิบ”
ลู่หานมองหน้าเด็กชายที่ดูจริงจังเอามากอย่างอึ้งๆ..
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่น้องบ่นว่าตัวเองโตช้า
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาบอกว่าโตขึ้นจะทำอะไรหลายๆอย่างให้ลู่หาน
เขาพูดบอกลู่หานมาตลอด.. ในตอนแรกก็คิดแค่ว่าเซฮุนยังเด็ก
เมื่อโตขึ้นความคิดก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เปล่าเลย.. เขาไม่ได้ล้อเล่น
แววตาของเขามันไม่เคยเปลี่ยนไป มีแต่จะชัดเจนขึ้นทุกวันจนลู่หานใจแกว่งไปมา..
ใจแกว่งกับเด็กอายุสิบขวบ..
บ้าไปแล้วลู่หาน
เขาโตแล้ว และจะบรรลุนิติภาวะในอีกสองปีข้างหน้า
เขาเป็นผู้ใหญ่พอที่จะมีความคิดซับซ้อนมากกว่าเด็ก คิดถึงสิ่งที่เป็นไปได้
และเป็นไปไม่ได้..
เด็กชายตัวกะเปี๊ยกเอี้ยวตัวไปหยิบดอกกุหลาบสีขาวที่เฝ้าถนอมมาตั้งแต่มันผลิเป็นดอกตูม..
ลู่หานมองตามน้องทุกการกระทำ.. จนกระทั่งเด็กน้อยหันกลับมาหาลู่หาน
ใบหน้าที่กำลังคมเข้มอมยิ้มเล็กน้อยแล้วก้มลงจรดปลายจมูกลงบนกลีบกุหลาบ
ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองสบตากับลู่หาน
สีหน้าเขินอายหากแต่จริงใจมันทำให้หัวใจของลู่หานแกว่งไปมาอีกครา มันวูบไหว..
และหวั่นไหว
“ผมให้”
ดอกกุหลาบสีขาวนั้นยื่นมาตรงหน้า..
แก้มและใบหูที่ขึ้นสีแดงจัดของเซฮุนเด่นชัด
หัวใจของหนุ่มน้อยเต้นตึกตักและรอลุ้นว่าพี่ลู่หานจะชอบมันไหม.. จะรับมันไว้หรือเปล่า..
มือที่ใหญ่กว่าตามอายุเอื้อมไปรับดอกไม้นั้นไว้
และโดยไม่คาดคิด เด็กชายก็ยืดตัวขึ้นหอมแก้มลู่หานดังฟอด คนเป็นพี่อ้าปากค้าง ก่อนจะนิ่งค้างเป็นก้อนหินไปเลยเมื่อเจอประโยคถัดไป
“โตขึ้นผมจะแต่งงานกับพี่ลู่หาน!”
--------------------------------------------------------------------------------------------------
เด็กหนุ่มตัวสูงกว่า 184 เซนติเมตรกำลังจับลูกบาสเกตบอลสีส้มเลี้ยงไปมาแล้วกระโดดชู้ตลงห่วง
ชายเสื้อนักเรียนมัธยมปลายหลุดลุ่ยออกนอกกางเกง ร่างสูงวิ่งไปแปะมือกับเพื่อนสองสามคนที่ร่วมเล่นด้วยกัน
เวลาเลิกเรียนแบบนี้ก็หาอะไรทำฆ่าเวลาซะหน่อย
แต่แล้วสายตาก็มองเลยไปเห็นคนตัวเล็กในชุดทำงานยืนกอดอกมองดูเขาอยู่ไม่ไกล
เซฮุนยิ้มตาเป็นสระอิทันที
“กูกลับก่อนนะ”
“ผู้ปกครองมึงมารับแล้วหรอ”
“เออ ไปนะ”
เขาโบกมือลาเพื่อนในสนามที่มองมาอย่างกรุ้มกริ่มเมื่อเห็นเขายิ้มไม่หุบเสียที
ร่างสูงเดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพายแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาพี่ชายข้างบ้านของเขาที่ยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ก็ยิ่งสวยคมขึ้นเป็นกอง
ออกชัดว่าสวยหวานน่ารัก.. ต่างจากเขาที่ยิ่งโตก็ยิ่งออกคมเข้ม
เครื่องหน้าที่ชัดขึ้นกับสันจมูกโด่งได้รูปทำให้เขาเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบแปดที่จัดได้ว่าหล่อมากคนหนึ่ง..
“น้ำ” มือเล็กยื่นน้ำขวดเย็นๆให้อีกคนที่พึ่งเล่นกีฬามาเหงื่อซ่ก
รอยยิ้มถูกส่งให้กันไปมาอยู่อย่างนี้.. เด็กหนุ่มรับขวดน้ำนั้นมาดื่มก่อนจะจับมืออีกฝ่ายแล้วเดินไปยังรถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถพร้อมๆกัน
มือที่ใหญ่กว่าเมื่อแปดปีที่แล้วบัดนี้มันกลับเล็กลงไปถนัดตาเมื่ออยู่ในฝ่ามือใหญ่ๆของผู้เป็นน้อง
เซฮุนเล่นบาสทำให้เขาตัวสูงและมือใหญ่เป็นใบบัว
อีกทั้งยังดื่มนมจนสูงเอาๆไม่หยุดอยู่แบบนี้
จากเด็กชายตัวกะเปี๊ยกข้างบ้านกลายเป็นเด็กหนุ่มที่ตัวสูงตามที่เขาได้ให้สัญญาไว้กับลู่หานทุกอย่าง
“ลู่หานหิวป้ะ ผมโคตรหิวเลย
ไปหาอะไรกินกันเหอะ ยังไม่อยากกลับบ้านเลย”
“น้องฮุนอยากกินอะไร”
“เลิกเรียกผมว่าน้องฮุนได้ป่ะ
หน่อมแน้มชะมัด ผมโตแล้วนะ โตพอที่จะเป็นแฟนพี่ได้แล้ว”
“พูดบ้าอะไรน่ะ”
คนตัวเล็กกว่าเอ่ยดุแล้วหันมองรอบข้างว่ามีใครได้ยินไหม
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วดึงมือคนเป็นพี่ให้เดินตามเขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงรถของลู่หาน
มือใหญ่ก็แย่งกุญแจรถไปกดปลดล็อกแล้วเปิดประตูจับยัดร่างเล็กบอบบางเข้าไปด้านใน
เซฮุนเดินอ้อมมาที่ฝั่งคนขับก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่ง เสียงล็อกประตูรถทั่วทั้งคันดังกริ๊ก
ร่างสูงโน้มตัวไปยังเบาะข้างคนขับ
ใช้สองมือแกร่งจับล็อกใบหน้าน้อยเอาไว้แล้วก้มลงจูบดูดดุนริมฝีปากอีกฝ่ายรุนแรง
เสียงใสร้องอื้ออึงในลำคออย่างอึดอัดพร้อมกับใช้มือเล็กทุบไหล่เด็กที่กำลังคุกคามตนอยู่
เสียงบดจูบเสียดสีของริมฝีปากดังขึ้นภายในรถ ก่อนที่เด็กอายุสิบแปดแต่แก่แดดแก่ลมเป็นบ้าแปรเปลี่ยนรสจูบเป็นหวานละไม..
สำหรับคนที่เขารัก..
ไม่นานเขาก็ผละริมฝีปากออกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบรับอะไรเขาเลย..
สองแขนแกร่งค้ำเบาะกักกันร่างเล็กเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน.. พี่ลู่หานชอบหนี
หนีหัวใจตัวเองอยู่เรื่อย..
“ยะ.. อย่าจูบตามใจชอบได้มั้ย”
“ขอไม่ขอก็เหมือนกัน ผมจะทำอยู่ดี”
“ที่บอกว่าโตขึ้นจะตัวสูงและแข็งแรง
ก็เพื่อที่จะเอาไว้รังแกกันหรอ..”
“ไม่ใช่นะ ลู่หานพูดอะไรวะ!”
“คำว่าพี่หายไปไหน”
“ใครเค้าเรียกแฟนว่าพี่กันล่ะ”
“โอเซฮุน..”
เสียงหวานนิ่งๆนั้นเอ่ยเรียกชื่อเขาเต็มๆเมื่อเห็นว่าเขานั้นเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเถียงไม่สนใจเหตุผลอะไรเลย
เด็กยังไงก็คือเด็กอยู่วันยันค่ำ
“เราพูดกันไปแล้วนะเซฮุน พี่อายุยี่สิบหก
เซฮุนอายุสิบแปด.. มันเป็นไปไม่ได้”
“อายุมันสำคัญกว่าความรักของผมหรอครับ”
“...”
“เด็กกว่าแล้วไงอ่ะ
เด็กกว่ามันรักพี่ไม่ได้หรอ มันทำให้พี่มีความสุขไม่ได้หรอครับ”
เสียงทุ้มพูดตัดพ้อ
พร้อมกับใช้ริมฝีปากไล้ไปตามข้างแก้มคนอายุมากกว่าแต่ก็ไม่ได้ดูแก่ลงไปเลยแม้แต่นิด
พี่ลู่หานหน้ายังไงตอนสิบแปด ตอนนี้ก็ยังหน้าอย่างนั้นแหละ เขาก็โตพอที่จะรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเองแล้ว
โตพอที่จะดูแลปกป้องคนตรงหน้านี้ได้แล้ว.. ถึงแม้ว่าจะยังหาเงินให้ใช้ไม่ได้
แต่ก็อีกไม่นานหรอก เรียนจบเดี๋ยวก็หางานทำแล้ว มันจะไปยากอะไรวะ ลู่หานจะคิดมากทำไม..
มือเล็กประคองแก้มของอีกฝ่ายเอาไว้เมื่อเขาทำท่าจะโน้มลงมาจุมพิตอีกครา
ปีสองปีมานี้เด็กคนนี้ชักเอาใหญ่..
ดวงตากลมสวยหวานจ้องมองเข้าไปในตาของอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้ง ทำไมลู่หานจะไม่รู้ว่าในแววตาคมๆนั้นมันแสดงออกว่าจริงใจและจริงจังมากแค่ไหน..
“เซฮุนยังเด็ก
ถ้าเซฮุนโตขึ้นเซฮุนจะรู้ว่าแค่ความรักมันไม่พอนะ.. มันมีปัจจัยหลายๆอย่างที่ต้องคิด
พี่ทำงานแล้ว คนในที่ทำงานจะมองพี่ยังไงที่คบเด็กม.ปลาย อีกสิบปีพี่ก็อายุสามสิบหกในขณะเซฮุนอายุแค่ยี่สิบแปด
แค่คิดมันก็ดูบ้าแล้ว.. เราจะอยู่ด้วยกันได้ยังไงในเมื่อเราต่างกันขนาดนี้”
“พี่จะไปแคร์คนอื่นทำไม
คนพวกนั้นเขารักพี่เท่าผมหรือเปล่า.. คนที่พี่ต้องแคร์คือผมดิ”
ลู่หานถอนหายใจ คุยกันเรื่องนี้ทีไรต้องจบแบบนี้ทุกที.. เซฮุนไม่ยอมฟัง
และมันก็ค้างคาอยู่แบบนี้..
หรือบางที
อาจจะเป็นลู่หานเองที่ไม่ยอมฟัง..
“ไม่พูดด้วยแล้ว ขับรถไปเลยเด็กแสบ”
“อะไรใครเด็ก
บอกแล้วไงว่าอย่าว่าผมเด็ก อยากโดนหรอ หื้ม”
“ปีนเกลียวนักนะ”
เด็กแก่แดดยักคิ้วข้างเดียว ก่อนจะโน้มริมฝีปากทำโทษคนที่หาว่าเขาเด็ก
และทำให้รู้ว่าเขาไม่เด็ก..
มือเล็กข้างหนึ่งถือดอกกุหลาบสีขาว
ส่วนมืออีกข้างโดนเด็กเอาแต่ใจแย่งไปจับกุมเอาไว้แน่นเหมือนกลัวลู่หานจะเป็นลู่หาย
เราตกลงมาทานข้าวที่ห้างใกล้ๆบ้าน ดอกกุหลาบสีขาวนั้นเซฮุนวิ่งไปซื้อมาให้เมื่อกี้เพราะแปลงหน้าบ้านมันออกดอกไม่ทัน
เขาตัดมาให้คนสวยข้างๆหมดแล้ว..
เรานั่งทานอาหารญี่ปุ่นด้วยกัน เซฮุนก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่รักใครแล้วรักจริง
พร้อมจะทำทุกอย่างให้คนที่เขารัก ดูแลเทคแคร์ทุกอย่าง.. จนลู่หานเลยคำว่าหวั่นไหวกับเด็กข้างบ้านคนนี้มานานแล้ว
หากแต่ก็ไม่กล้าพูดบอกอะไรออกไปเพราะเอาแต่คิดนู่นคิดนี่บ้าบอไปหมด
“ผมมือใหญ่กว่าพี่โคตรเยอะ ดูดิ”
เสียงทุ้มเอ่ยแล้วจับมือลู่หานขึ้นมาประกบกับมือเขา
เหมือนเมื่อแปดปีที่แล้ว.. หากแต่ตอนนี้มันกลับแปรผกผันกัน
มือใหญ่ๆเป็นไม้พายของเซฮุนนั้นสามารถกุมมือลู่หานได้มิดจริงๆ..
เขายิ้มตาเป็นสระอิให้ลู่หานแล้วเปลี่ยนจากมือที่แปะประกบกันเป็นสอดประสาน..
เราเดินดูของในห้างไปเรื่อย และก็ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนทักเซฮุนเป็นกลุ่ม
ดวงตากลมหวานมองไปข้างหน้าก็เจอกลุ่มเด็กม.ปลายกำลังเดินตรงเข้ามาทางนี้
เซฮุนเองก็โบกมือทักทายเพื่อนของเขา
ลู่หานพยายามที่จะแกะมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขา แต่เซฮุนก็กำจับมันเอาไว้แน่น
“มาเดทหรอเซฮุน ไม่ธรรมดานะ”
“อือ”
เสียงกลุ่มนั้นโห่แซวยกใหญ่พร้อมกับมองสำรวจลู่หานตั้งแต่หัวจรดเท้า
เมื่อเห็นว่าอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตทำงานก็เอ่ยแซวขึ้นมาอีกระลอก
“โห เคี้ยวยากป่ะวะไอ้ฮุน ฮ่าๆๆ”
“...”
“พี่ครับหญ้าอ่อนมันอร่อยป่ะครับ”
พลั่ก!
หนึ่งหมัดพุ่งตรงใส่ปากที่พ่นอะไรน่ารำคาญออกมา ลู่หานทำตาโตตกใจแต่ก็ถูกคนเป็นน้องดันให้หลบอยู่ด้านหลัง
ใช้ตัวสูงๆของเขาปกป้องเอาไว้
“ถึงกับต่อยเลยอ่อวะ!”
ผู้ถูกต่อยกระชากคอเสื้อของเซฮุนอย่างเอาเรื่อง
แต่ก็ถูกเพื่อนข้างหลังดึงๆไว้เพราะมันก็ปากหมาจริงๆที่ไปว่าเขาอย่างนั้น เซฮุนจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเขม็งไม่เกรงกลัว
ขอให้แม่งได้เมียแก่
ปรี๊ดๆ!
เสียงนกหวีดของรปภ.มาไล่เมื่อเห็นเด็กจะยกพวกต่อยกัน
พวกนั้นรีบวิ่งสลายตัวทันที
มือใหญ่คว้ามือเย็นๆของลู่หานแล้วดึงลากให้เดินตามไปที่รถในทันที
เซฮุนรู้ดี.. ว่าลู่หานนั้นกำลังคิดไปไกลถึงขนาดไหน
และก็คงกำลังรู้สึกแย่เอามากๆ เซฮุนไม่ชอบคำว่าเด็ก และเช่นกัน
ลู่หานก็ไม่ชอบคำว่าแก่นักหรอก.. มันยิ่งตอกย้ำอะไรหลายๆอย่างว่าเราไม่เหมาะสมกัน..
เรานั่งเงียบกันอยู่ในรถจนได้ยินเสียงลมแอร์.. ได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจของกันและกัน
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งสิ้นตลอดการเดินทาง จนกระทั่งเซฮุนเลี้ยวรถเข้ามาจอดในบ้านของลู่หาน..
บ้านที่เขามาทุกวันจนแทบจะย้ายทะเบียนบ้านอยู่แล้ว เราทั้งคู่ลงจากรถ
ก่อนที่เด็กหนุ่มตัวสูงจะเดินเข้ามาหาลู่หานพร้อมกับจับหัวผู้เป็นพี่โยกไปมา
“อย่าคิดมากดิ”
“พี่อายุเยอะกว่าเซฮุนตั้งแปดปีนะ”
มือเล็กปัดมืออีกฝ่ายออกไป
สายตาหวานๆนั้นดูเศร้าลงและมีหยาดน้ำใสๆคลอหน่วย..
ร่างเล็กหลบสายตาอีกฝ่ายแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันที เด็กหนุ่มตัวสูงยืนนิ่งอยู่กับที่..
ใช้ฝ่ามือลูบหน้าตัวเองก่อนจะเดินออกจากบ้านของพี่ลู่หานไป..
ชายวัยทำงานร่างเล็กในชุดนอนลายจุดนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา
ดวงตากลมโตยังคงเบิกโพลงใต้ผ้าห่ม มันข่มตาหลับไม่ลงจริงๆ..
คิดเรื่องนี้จวบจนปวดหัวมาหลายรอบก็ยังคิดไม่ตก จะให้ไม่แคร์สังคมเลยมันทำไม่ได้..
ไม่ได้จริงๆ..
บางครั้งลู่หานก็อยากที่จะไม่แคร์อะไรเลยสักอย่างแล้วเปิดใจรับเซฮุนเข้ามาอย่างที่ใจต้องการ
หากแต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ต้องพังลง..
เพราะลู่หานทนเห็นเซฮุนต้องโดนสายตาของคนรอบข้างมองมาอย่างแย่ๆไม่ได้ เขายังเด็กและน่าจะมีคนดีๆและเหมาะสมเข้ามาหาเขามากกว่าที่จะหยุดอยู่ที่ลู่หาน..
ถอนหายใจออกมาเฮือกแล้วเฮือกเล่า
ก็ยังนอนไม่หลับคิดไม่ตกเสียที
ก๊อกๆ
“ลู่หาน นอนยังอ่ะครับ”
เมื่อได้ยินเสียงทุ้มคุ้นเคยนั้น
มือเล็กก็ดันผ้าห่มออกจากตัวทันที
ขาเล็กก้าวลงจากเตียงแล้วเดินตรงไปที่ประตูอัตโนมัติ
บิดลูกบิดปลกล็อกพร้อมกับเปิดประตูออก ใบหน้าหล่อๆนั้นยิ้มแป้นอยู่ที่หน้าประตู
ก่อนจะยื่นตุ๊กตากระต่ายหูยาวให้กับลู่หาน ผู้เป็นพี่รับมันมากอดไว้งงๆ
“วันนี้ผมจะให้พี่อายุสิบแปดเท่ากับผม”
เซฮุนเดินเข้ามาในห้องแล้วล็อกประตู
เขาเดินมาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนุ่มๆของลู่หาน ใช้แขนต่างหมอน
ชันขาขึ้นพาดหัวเข่าพร้อมกับกระดิกเท้าสบายใจเฉิบ
คนเป็นพี่ได้แต่ยืนกอดตุ๊กตาทำหน้างง อะไรของเขาน่ะ..
“ตอนนี้พี่โคตรเหมือนเด็กอายุสิบแปดเลย”
ดวงตาเรียวคมกวาดมองคนตรงหน้าแล้วก็ยิ้มตาขีด ร่างเล็กผิวขาวอมชมพูอยู่ภายใต้ชุดนอนลายจุดลดอายุลงไปได้เยอะกว่าตอนใส่ชุดทำงานเสียอีก
ตอนพี่ลู่หานใส่ชุดเสื้อยืดธรรมดาๆนี่นึกว่าเด็กม.ปลาย เดินห้างกับเขาได้สบายเลย ดวงหน้าหวานใสมีผมหน้าม้าปรกคิ้วเล็กน้อย
พร้อมกับกอดตุ๊กตาหมีในอ้อมแขน สิบแปดยังดูอายุมากไปเลย..
“วันนี้ผมมีโปรโมชั่นมาให้ลู่หาน”
“จะเล่นอะไรน่ะเซฮุน ดึกแล้วนะ”
ร่างเล็กเดินมาหย่อนตัวนั่งขัดสมาธิบนเตียงคุยกับอีกฝ่ายที่นอนกระดิกเท้าอยู่ใกล้ๆ
สายตาของเซฮุนดูวิ้งวับเป็นพิเศษ เป็นอะไรของเขาอีกล่ะนั่น
“คืนนี้ลองคบกับผมดูไหม ลืมเรื่องอายุ
ลืมทุกอย่างไปให้หมด แล้วมีแค่เซฮุนกับลู่หาน” เขาชี้ตัวเองแล้วสลับชี้คนน่ารักที่ทำหน้าเอ๋ออยู่ข้างๆ
“...”
“ผมให้พี่นับหนึ่งตรงนี้ แล้วผมจะถามพี่อีกทีว่าความรู้สึกของพี่ที่มีต่อผมมันมากเท่าไหร่”
ยังไม่ทันที่ลู่หานจะตอบรับหรือปฏิเสธอะไร
แขนบางก็ถูกมือใหญ่ๆเป็นใบกล้วยนั้นฉุดจนกระทั่งร่างเล็กนอนทับบนตัวเขา
เซฮุนจับตัวลู่หานพลิกลงด้านล่างแล้วคร่อมทับอย่างรวดเร็ว ใช้ศอกทั้งสองข้างค้ำผืนเตียงเอาไว้
ลู่หานเห็นรอยยิ้มมุมปากของเด็กแสบก่อนที่มันจะทาบทับลงมาปิดปากเล็กๆของลู่หานเอาไว้
ลู่หานกำลังให้เด็กปีนเกลียวอีกครั้ง ด้วยความยินยอม..
“อืม..อืม..”
เสียงอืออาทุ้มในลำคอนั้นทำให้ลู่หานหน้าร้อนฉ่า
ลมหายใจติดขัดไปหมดเมื่อถูกคุกคามจากเด็กลามกคนนี้.. ลิ้นอุ่นๆสอดเข้ามาแตะปลายลิ้นกันไปมาราวกับจะหยอก
มือเล็กจับไหล่กว้างแข็งแรงของคนเป็นน้องเอาไว้ โตเร็วชะมัดเลย..
เสียงแลกจูบเสียดสีของเหลวและอวัยวะนุ่มๆในปากกันไปมาจนตัวของทั้งคู่เห่อร้อนไปหมด
เราไม่เคยเกินเลยกันไปมากกว่าจูบ เมื่อเซฮุนเริ่มจะรู้สึกเพียงนิดเขาจะหยุดเพราะไม่อยากให้พี่ลู่หานเสียใจและว่าเขาเป็นเด็กแก่แดดปีนเกลียว
แต่วันนี้มาข้ามรุ่นกันหน่อยมั้ย..
ดวงตากลมเบิกโพลงพร้อมกับบิดตัวไปมาเมื่อฝ่ามือใหญ่สอดเข้าไปใต้กางเกงนอนลายจุด
หยอกล้อกับส่วนอ่อนไหวจนเสียงใสร้องอืออึงในลำคอ เรียวขาเสียดสีกับผืนเตียงไปมา..
ลู่หานยังไร้เดียงสาในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ตาม
เซฮุนปล่อยริมฝีปากอีกคนให้เป็นอิสระเพราะอยากฟังเสียงหวานๆครางจากฝีมือของเขา
หากแต่เขาก็ได้อะไรที่มากกว่าเสียงคราง เพราะใบหน้าหวานที่กำลังแดงซ่าน
ดวงตาฉ่ำหวานปรือปรอยที่มองสบตากับเขา
กับเสียงหอบหายใจผะแผ่วผสานกับเสียงหวานๆนั้นมันทำให้เขา แข็งสุดๆ..
“อื้ม.. อะ..อะ..”
“ลู่หานแม่ง..”
“เบาก่อน แฮ่ก..อ๊า..”
เสียงหวานปลายแผ่วลงเพราะต้องหอบหายใจเข้าปอดถี่ด้วยความเหนื่อยหลังจากปลดปล่อย..
กางเกงนอนในตอนนี้คาที่อยู่หัวเข่า
ส่วนเสื้อนั้นถูกปลดกระดุมลงมาหมดทุกเม็ดตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้..
ร่างเล็กกระตุกก่อนจะร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อคนเป็นน้องใช้ริมฝีปากร้อนครอบครองเม็ดตุ่มใตจนแข็งขึ้นสู้ลิ้น
มือเล็กขย้ำเส้นผมนิ่มของเด็กลามกไปมาเพื่อระบายความเสียว
เสียงบดจูบกายขาวจาบจ้วงจนทำให้ลู่หานเขินต้องเอามือปิดหน้า..
“ไปฝึกมาจากไหนเนี่ย..”
“ในเว็บเต็มเลย”
“เด็กลามก”
“ใครเด็กกันแน่ครับเนี่ยหื้ม”
เซฮุนหัวเราะก่อนจะจับมือเล็กๆของลู่หานให้จับที่แกนกายร้อนแข็งตึงของเขาพร้อมกับพากำรูดไปมาด้วยกัน
เด็กลามกนั้นซบใบหน้าลงกับซอกคอของลู่หานแล้วพ่นลมหายใจอุ่นๆใส่
ร้องครางด้วยความสุขสมอยู่ข้างหูจนลู่หานแทบจะมุดหมอนหนี..
หัวใจเต้นตึกตักจนแทบจะระเบิดออกมาเสียตรงนี้..
“เด็กหื่น..” พูดเสียงกระท่อนกระแท่น
มือที่กำลังกำรูดส่วนนั้นก็รู้สึกสั่นจนมือของอีกฝ่ายต้องประคองเอาไว้
คนเป็นน้องยิ้มเอ็นดู..
“ผมหื่นกับพี่คนเดียวนั่นแหละ
จะหื่นให้เยอะๆด้วย”
“...”
“ผมรักพี่นะ”
คำบอกรักกระซิบข้างหูแผ่วทว่าได้ยินชัดเจน..
แก้มกลมขึ้นสีแดงซ่านด้วยความเขินอาย
ผู้เป็นน้องเห็นก็ยิ้มกว้างแล้วจึงก้มลงประทับจูบแนบแน่นป้อนความหวานละมุนให้กันอีกครา..
ให้คำว่ารักของเขามันประทับลงไปหนักๆ เสียงครางหวานในลำคอดังมาให้เขาได้ยินผะแผ่ว..
ส่วนมือน้อยก็ขยับกำรูดแน่นหนักจนเขาเสียวและเผลอกระตุกเกร็ง ยั่วกันหรอครับ..
ร่างสูงขยับใช้เข่ารองใต้เรียวขาเล็กเพื่อแยกขาทั้งสองออกจากกัน ใช้นิ้วเขี่ยหยอกเย้าจีบพับบางๆนั้นจนร่างเล็กร้องอื้อ ก่อนจะกดนิ้วเข้าไปเพื่อเปิดช่องทาง.. ในตอนแรกลู่หานก็เสียดสีเรียวขากับเตียงไปมาเพราะเจ็บ.. แต่เขาใช้จูบเบนความสนใจไปได้ทั้งหมดสิ้น..
“พี่โคตรน่ารักเลย..”
ดวงตาคมกวาดมองใบหน้าอีกฝ่ายที่ปรือปรอยด้วยแรงอารมณ์..
แก้มกลมเห่อแดงไปหมด ผิวขาวๆก็แดง.. เซฮุนเลียริมฝีปากของตนเองไปมา หัวใจเต้นตึกตักไม่หยุดที่เราจะได้ใช้ความรู้สึกของเราดำเนินไปด้วยกัน..
ความรู้สึกดีมันเกิดมาจากความรักของเราทั้งสองคน..
“ผมจะใส่เข้าไปแล้วนะ”
มืออบอุ่นลูบหัวผู้เป็นพี่อย่างปลอบโยน
ก่อนจะค่อยๆกดปลายแล้วดันเข้าไปช้าๆ.. แค่หัวก็ตอดกระตุกรับกันถึงใจขนาดนี้แล้ว
ไม่อยากจะคิดถึงตอนที่มันเข้าไปทั้งหมดเลย ลู่หานกัดหลังมือตัวเองแน่น..
ทั้งเจ็บแต่ก็รู้สึกดีเพราะเป็นเซฮุน เพราะเขาคือเซฮุน..
“โอ๊ย พี่แม่ง พี่แม่ง..”
“อ๊ะ.. อ๊ะ..”
เสียงร้องครางตามจังหวะกระแทกกายถี่นั้นยิ่งทำให้รู้สึกกระสันยิ่งกว่าเดิมเป็นพันเท่า
แทบจะสำลักความสุขตายอยู่ตรงนี้ ได้ร่วมรักกับคนในฝัน.. คนที่เขารักจนหมดหัวใจ
ดอกไม้ที่เขาเลี้ยงดูฟูมฟักตั้งแต่เป็นดอกตูมจนกระทั่งผลิบานเต็มหัวใจของเราทั้งสองคน..
“เซฮุน..”
“ว่าไงหื้ม”
“เซฮะ..ฮุน..อ๊า..อ๊ะ..”
“...”
บอกทีสิว่าไม่ได้ยั่วกัน
บอกทีสิว่าลู่หานไม่ได้กำลังใช้สายตาหวานๆนั้นมองเขาด้วยความปรารถนา..
ความกำหนัดของเด็กหนุ่มนั้นส่งแรงกระชั้นถี่จนเส้นผมนิ่มของคนใต้ร่างถูไถกับหมอนไปมา
.. และในที่สุดหยาดน้ำอุ่นๆก็ถูกปลดปล่อยเข้าไปในช่องทางที่กระตุกตอดรัดเนื่องจากปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกัน..
เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงโถมโอบกอดร่างเล็กบอบบางเอาไว้จนใบหน้าหวานซุกอยู่ที่ไหล่ของเขา
ผ่อนลมหายใจเข้าออกด้วยความเหนื่อยหอบ
ทว่าปากบางกลับมีรอยยิ้มติดอยู่ไม่จางหายกันทั้งคู่
“พี่รู้สึกดีมั้ย”
“ไหนบอกจะให้พี่ให้เป็นคะแนนไง”
“อ่า จริงด้วย พี่รู้สึกยังไงก็ผม
เต็มร้อยนะ”
ดวงตาคมจ้องมองตาอีกฝ่ายอย่างลุ้นในคำตอบ..
ถึงแม้ว่าการกระทำจะชัดเจนแล้วก็เถอะ แต่ถ้าพี่ลู่หานให้คะแนนเขาน้อยมันก็เจ็บจี้ดๆอยู่ดีนี่หว่า..
คนเป็นพี่ยิ้มแล้วยืดตัวไปกระซิบข้างหูเบาๆ
“ให้ล้านเลย..”
ไม่ต้องบอกว่าคนฟังดีใจแค่ไหน ร้องเย้ๆเป็นเด็กๆไปแล้ว
มือแกร่งเชยคางมนของผู้เป็นพี่ขึ้นมาจูบกันอีกครั้งและอีกครั้ง.. ถึงจะเกิดไม่ทันแต่โตทันนะครับ
“ผมใช้ล้านคะแนนนี้แลกเป็นคำบอกรักได้ป่ะ..”
“ได้คืบจะเอาศอกนะ”
“ต่อไปนี้พี่ไม่ต้องแคร์ใครหน้าไหนทั้งนั้นนะ
พี่น่ารักกว่าใครๆ พี่แสนดีกว่าใครๆ และผมก็รักพี่มากกว่าใครๆ..”
“...”
“บอกรักผมให้ผมชื่นใจหน่อยดิ”
มือแกร่งหยิกจมูกคนน่ารักที่นอนฟังเขาพูดอยู่ฝ่ายเดียว
ที่ไม่พูดอะไรเลยก็เพราะเขินต่างหาก..
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะหลงรักเด็กที่อายุห่างกันตั้งแปดปี
เด็กข้างบ้านที่รู้จักกันมาตั้งแต่เขาแปดขวบเพราะน้องพึ่งเกิด
เราใช้ชีวิตผูกพันกันเรื่อยมา.. เด็กยังไงก็คือเด็ก
แต่เด็กมันก็น่ารักดีไม่ใช่หรอ..
“พี่รักเซฮุนนะ”
--------------------------------------------------------------------------------------------------
-END-
#ผมเด็กกว่าแล้วไง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น