HUNTER
BOY : รักเดือดๆของหนุ่มเลือดร้อน
Special
Chapter
“มึงงอนกะนางฟ้าหรอวะ”
ไอ้จงอินถามเมื่อเห็นผมเอาแต่จ้องโทรศัพท์ตัวเองเหม่อๆ
แน่นอนว่าเวลาว่างแบบนี้ผมต้องแชทกับลู่หานตลอด
แต่วันนี้โทรศัพท์กลับเงียบฉี่ไม่มีแม้แต่ข้อความใดเด้งเข้ามา มันลากยาวมาตั้งแต่เมื่อคืนที่เราคุยกันไม่ลงตัวเท่าไหร่นัก
“เรื่องนี้ยอมให้กันไม่ได้เลยหรือไง
ปกติเห็นยอมพี่เค้าตลอด”
“จริงๆมันก็ยอมได้เว้ย
แต่พอมันเยอะเข้ามันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ว่ะจงอิน”
“ครั้งนี้ใครผิด”
“กูผิดเองมั้งที่ไม่เข้าใจเค้า”
“ดราม่าจริงเว้ยเฮ้ย”
คบกับลู่หานมาสี่เดือนก็พึ่งจะเคยงอนกันจริงๆจังๆก็คราวนี้
เรื่องราวมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ
ก็แค่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ผม
มัวแต่ทำกิจกรรมของโรงเรียนเป็นบ้าเป็นหลัง
เรื่องนี้ดูเป็นเรื่องเล็กขี้ปะติ๋วนะ
แต่เอาจริงๆแล้วมันใหญ่พอตัว ผมมีแฟน ผมคิดถึงแฟน อยากมีเวลาอยู่กับเขาให้มากๆ ขนาดผมพยายามลดช่องว่างที่เราอยู่ต่างโรงเรียนลงโดยการไปส่งเขาที่คอนโดทุกเย็น
เสาร์อาทิตย์ก็ไปหมกตัวอยู่ที่ห้องของลู่หานตลอด บางทีก็นอนค้างคืนไปเลย(ไม่ได้ทำอะไรกันครับ
นอนเฉยๆ) แต่ลู่หานก็เหมือนเดิม ไม่เคยเข้าใจอะไรผมเลยว่าไอ้ที่ผมทำๆอยู่เนี่ยคือต้องการอยู่กับเขาให้นานๆ
ผมโอเคนะกับการที่คอยดูแลเขา
คอยตามใจเขา ผมไม่เคยเหนื่อย
แต่อย่างน้อยลู่หานก็น่าจะเข้าใจเหตุผลในสิ่งที่ผมทำบ้าง
บางทีนอนกอดอ้อนกันอยู่ดีๆ
พอโทรศัพท์ของลู่หานดังกริ๊งเดียวเขาก็ถีบผมออกจากตัวแล้วรีบไปโรงเรียนเพื่อทำกิจกรรม
โอ๊ย โรงเรียนคริสเตียนแม่งเป็นบ้าอะไรวะ ใช้งานนางฟ้ายังกับเขาเป็นคนเหล็ก
เมื่อคืนคุยกันยาวเลยครับเรื่องนี้
เหมือนผมได้ระเบิดความรู้สึกออกไป ลู่หานก็เอาแต่บอกว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าไม่ทำจะดูเหมือนไร้ความรับผิดชอบ
เราเริ่มเสียงดังใส่กันเรื่อยๆจนมันทำให้ผมรู้สึกแย่
จบที่ผมตัดสายทิ้งไปก่อนก่อนที่เราจะทะเลาะกัน
“ตัดสายก่อน ถือว่างอนเยอะกว่าป่ะวะ”
“ตามหลักการก็ใช่ว่ะ”
“ทำไมคนสวยมักใจร้ายวะจงอิน
กูก็แค่อยากอยู่กับเขานานๆแค่นั้นเอง ทำไมไม่เข้าใจซะทีวะ”
“เขาอาจจะเข้าใจ
แต่ทำตามความต้องการของมึงไม่ได้ ต่างคนก็ต่างมีภาระหน้าที่นะ”
“เนี่ยไง
คำเดียวกับลู่หานเมื่อคืนนี้เลย วู้”
“เป็นแฟนกับนางฟ้าคริสเตียนต้องอดทนหน่อยเพื่อน
บางอย่างเขาก็เปลี่ยนแปลงเพื่อมึงไม่ได้หรอก อีกอย่าง
ลิ้นกับฟันต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา”
ผมพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ยอมรับว่างอนก่อน
แต่ก็อยากคุยกับลู่หานอยู่ดี ผมรู้ว่ามันแม่งไม่คูลเลยจริงๆกับการที่งอนเขาและอยากง้อก่อน..
กินข้าวหรือยัง
ตอนนี้ทำอะไรอยู่ครับนางฟ้า..
ร่างสูงยืนล้วงกระเป๋าพิงกำแพงหน้าคอนโด
ทุ่มนึงแล้วลู่หานก็ยังไม่กลับเลย
“เซฮุน..”
ปลายเท้าของนางฟ้าคริสเตียนหยุดลงเมื่อพบกับคนที่คุ้นเคยยืนรออยู่
เมื่อผมได้ยินเสียงเรียกก็เดินออกมายืนตรงหน้าลู่หาน
มองใบหน้าหวานสวยที่ยังตรึงใจเสมอ ก่อนจะเกาท้ายทอยแก้เขิน
เราเดินเข้าคอนโดกันอย่างเงียบๆ
ตอนขึ้นลิฟต์แคบๆที่มีกันอยู่แค่สองคนก็ยิ่งเงียบเข้าไปกันใหญ่
ผมแอบมองลู่หานที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นเลย พอเรามาถึงห้อง
ลู่หานก็เดินแยกไปเก็บกระเป๋าและทำอาหาร ส่วนผมนั่งดูทีวีโง่ๆอยู่บนเตียง
“นายกินข้าวมาหรือยัง”
“ยังอ่ะ”
ลู่หานพยักหน้าแล้วกลับไปทำอาหารต่อ ครอบครัวของลู่หานทำธุรกิจใหญ่โตเลยทีเดียว
ทางบ้านค่อนข้างมีฐานะ ทำให้ซื้อคอนโดหรูให้ลูกชายอยู่ได้สบายๆ
เรื่องราวของนางฟ้าผมไม่ได้ถามอะไรเขามากหรอก รอเวลาดีๆแล้วเขาจะเล่าให้ผมฟังเอง
“ทำกับข้าวเสร็จยัง” ผมตะโกนถาม
“อีกนิดเดียว นายหิวแล้วหรอ”
“ทำเสร็จแล้วมานี่หน่อย”
ลู่หานทำหน้างงแต่ก็ไม่ตอบอะไรผม
ไม่นานเขาก็ปิดแก๊สแล้วถอดผ้ากันเปื้อนเดินมาหาผมที่เตียง
ผมอ้าขาออกแล้วตบๆที่ว่างระหว่างขาของผม
“มานั่งนี่สิ”
“ไม่ได้คิดจะทำอะไรพิเรนทร์ๆใช่มั้ย”
“ถ้าจะทำทำไปนานแล้วครับ”
ร่างเล็กค่อยๆเดินมานั่งตรงหว่างขาของผมอย่างกล้าๆกลัวๆ
แก้มกลมๆกลิ่นขนมหวานขึ้นริ้วสีแดงจางๆ ผมวาดแขนกอดเอวบางแล้วซบใบหน้าลงบนบ่าของลู่หาน
“ขอโทษที่เมื่อคืนตัดสายก่อน”
“ถ้านายไม่ตัดสายเราได้ทะเลาะกันจริงๆแน่”
“งอนหรือเปล่า”
“ไม่หรอก นายนั่นแหละที่งอน”
“ก็นายไม่ยอมเข้าใจฉันนี่”
“นายนั่นแหละที่ไม่เข้าใจฉัน ไอ้ทึ่ม!”
มือเล็กแกะมือผมออกจากเอวของเขาแล้วก็ลุกออกไปเลย
ชิบหายแล้ว จากที่ไม่งอนกลับงอนหนักซะอย่างงั้น
ลู่หานตักกับข้าวแล้ววางๆไว้บนโต๊ะกินข้าว
ผมเดินไปนั่งลงตรงข้ามลู่หาน วันนี้ยังไม่เห็นนางฟ้ายิ้มเลย
เวลาอยู่ด้วยกันยิ่งมีน้อย ทำไมต้องมางอนกันด้วยวะ
เราทานข้าวกันอย่างเงียบๆ
มีเสียงทีวีดังเจื้อยแจ้วพอไม่ให้บรรยากาศสงัดเกินไป
.
.
ทนไม่ไหวแล้วเว้ย!
บางทีเราอาจจะต้องการเรียนรู้กันและกันให้มากขึ้น
เผื่อจะได้เข้าใจว่าสิ่งที่แต่ละคนชอบนั้นมันเป็นยังไง
ผมตบโต๊ะดังปัง
ลู่หานเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมนิ่งๆ
“พรุ่งนี้วันหยุด เรามาแบ่งพาร์ทกัน
ตอนเช้าฉันจะพานายไปทำสิ่งที่ฉันชอบ ส่วนตอนบ่ายนายพาฉันไปทำสิ่งที่นายชอบ ตกลงป่ะ!”
“เพื่ออะไรอ่ะ”
“เราจะได้เข้าใจกันมากขึ้นไง”
“ได้ เก้าโมงเจอกัน”
“เดี๋ยวขับรถมารับ แต่งตัวรอได้เลย”
เราจ้องตากันเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใคร
พรุ่งนี้สนุกแน่
นางฟ้าคริสเตียนจอมดื้อ..
เช้าวันต่อมา
รถยนต์คันหรูจอดเทียบหน้าคอนโด
ผมถอดแว่นตาดำออกโยนไว้ที่คอนโซลรถแล้วควักโทรศัพท์ต่อสายหานางฟ้าคริสเตียน
“ฮัลโหล..”
เสียงงัวเงียเหมือนยังไม่ตื่นนี่มันคืออะไรวะครับ
“ตื่นยังเนี่ย”
“กี่โมงแล้วอ่ะ..”
“แปดโมงห้าสิบห้า
ฉันอยู่หน้าคอนโดแล้วเนี่ย”
“โอเค อีกห้านาทีเดี๋ยวลงไป..”
เสียงยานคางเหมือนคนพึ่งตื่นทำให้ผมประหลาดใจ
แค่ห้านาทีอาบน้ำแต่งตัวมันจะทันหรอวะเนี่ย
นั่งรอไม่ถึงห้านาทีนางฟ้าคริสเตียนก็เดินเตาะแตะออกจากลิฟต์
หน้าตาเหมือนยังตื่นครึ่งไม่ตื่นครึ่ง ผมลดกระจกแล้วเรียกลู่หานให้มาขึ้นรถ
เขาดูตกใจนิดหน่อยกับยี่ห้อรถก่อนจะเปิดประตูเข้ามานั่ง
“รถใครอ่ะ” เสียงใสเอ่ยถามพร้อมกับขยี้ตาไปด้วยเหมือนยังเมาขี้ตาอยู่
“รถฉันเอง”
“นายมีรถขับด้วยหรอ พึ่งม.ปลายเองนะ”
“พ่อซื้อให้ตั้งแต่อยู่ม.ต้นแล้ว”
“ไม่น่าถามลูกคนรวยเล้ย”
ผมยิ้มจางๆแล้วขับรถออกตัวไปข้างหน้า
เวลาจำเป็นเท่านั้นแหละผมค่อยเอามันออกมาขับ
ถ้าผมขับไปโรงเรียนมีหวังได้แตกตื่นกันหมดทั้งอาจารย์ทั้งนักเรียนแน่
รถยุโรปราคาสิบๆล้านแบบนี้..
“แล้วนี่ทำไมหน้าง่วงจัง” ผมถามลู่หาน
“เมื่อกี้เผลองีบไปอ่ะ”
“อาบน้ำไว้แล้วหรอ”
“อื้อ ตั้งแต่หกโมงแล้ว”
“ตื่นมาทำอะไรตั้งแต่หกโมง”
“...”
“ตอบดิ”
“ก็..
พึ่งกลับจากโรงเรียนตอนตีห้าเลยอาบน้ำรอนายมารับ แล้วมันก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้
รู้ตัวอีกทีก็ตอนนายโทรมานั่น..”
“ทำงานโรงเรียนบ้าอะไรกลับตั้งตีห้าวะ!”
ผมตะคอกเสียงดังลั่นรถ
มันชักจะมากเกินไปแล้วนะกลับเช้าขนาดนี้ แถมนอนก็ไม่ได้นอน
แบบนี้สุขภาพมันก็แย่พอดีน่ะสิ
“พอฉันกลับแล้วนายก็ไปโรงเรียนต่องั้นหรอ”
“อืม” ลู่หานพยายามไม่ตะคอกกลับผม
พูดคุยกันด้วยเสียงปกติ
“บ้าไปแล้วลู่หาน
นายไม่ห่วงสุขภาพตัวเองเลยหรือไง แล้วตอนขากลับใครมาส่ง”
“นั่งแท็กซี่กลับ”
“ทำไมไม่โทรบอกฉัน ฉันจะได้ไปรับ”
“มันตีห้านะเซฮุน รบกวนนายเปล่าๆ”
“อย่างน้อยก็โทรบอกกันบ้าง”
“ถ้าโทรบอกนายคงจะตามมาลากฉันกลับคอนโด
เหนื่อยทั้งนายทั้งฉันรู้มั้ย”
“ลู่หาน”
เขาหันหน้าหนีไปอีกทางแล้วหยิบหูฟังออกมายัดหู
ให้มันได้อย่างนี้สิ
ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะต้องอมยิ้มเมื่อมาถึงสถานที่ที่ผมจะพาลู่หานมาเที่ยวแล้ว
ผมขับรถตรงบึ่งเข้าไปด้านในและจอดรถในช่องจอดรถ
พอดับเครื่องผมก็ปลดสายคาดเข็มขัดนิรภัยออกอย่างตื่นเต้น แต่คนข้างๆผมกลับนิ่งไม่ขยับเลยสักแอะผมก็เลยหันไปดู
นางฟ้าคริสเตียนหลับอยู่.. หัวเอียงพับลงไปอย่างน่าเอ็นดู
น่ารักจัง..
ดูไม่เหมือนคนที่เถียงกับผมเมื่อกี้นี้เลย
ผมยิ้มแล้วดึงหูฟังออกจากหูของลู่หาน
ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปสูดดมกลิ่นขนมหวานจากพวงแก้มเนียนดังฟอด
ดวงตากลมเปิดขึ้นอัตโนมัติราวกับเจ้าหญิงนิทราถูกจุมพิตปลุก
เจ้าชายยังคงยิ้มพร้อมกับยื่นหน้าสลอนอยู่อย่างนั้น
“เมื่อกี้ทำไรอ่ะ”
ผมยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มลู่หานอีกที
ฟอดใหญ่กว่าเมื่อกี้ด้วย
“ก็เมื่อกี้ถามว่าทำอะไร นี่ไง หอมแก้ม”
“...”
ดูเหมือนว่าลู่หานไม่รู้จะตอบว่าอะไรก็เลยหนีลงจากรถไปเลย
เขินก็บอก อย่ามาทำไก๋
ผมจูงมือลู่หานเดินเข้ามาด้านในโรงฝึก
เสียงเตะต่อยปั่กๆทำให้นางฟ้าคริสเตียนตาเบิกโพลง
“นายพาฉันมาโรงฝึกเทควันโดหรอ”
“ใช่ ไปเปลี่ยนชุดเร็ว”
“ฉันไม่เคยเล่นมาก่อนเลยนะ”
“ฉันไม่ทำนายเจ็บหรอกน่า เปลี่ยนชุดกัน”
ลู่หานยื้อแขนตัวเองเอาไว้แต่สุดท้ายก็โดนผมลากไปเปลี่ยนชุดอยู่ดี
ระหว่างทางมีเด็กในโรงฝึกมาทักผมบ้างสองสามคน
ทักษะเตะต่อยของผมก็มาจากการเรียนเทควันโดนี่แหละ ผมเรียนมาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว
ผมเปลี่ยนชุดเสร็จก่อนก็เลยออกมายืนวอร์มรอลู่หาน
เด็กๆที่ฝึกอยู่ก็ทยอยกันออกไปพักกินขนมจนในโรงฝึกเหลือแค่ผมกับคนที่เปลี่ยนชุดอยู่ในห้องเท่านั้น
ไม่นานร่างเล็กในชุดเทควันโดสีขาวคาดสายขาวก็เดินออกมา
ชุดค่อนข้างโคร่งเล็กน้อย น่าจับอุ้มแล้วยกทุ่ม(ลงเตียง)จริงๆ
“ยิ้มไร”
“เปล่า”
ลู่หานชี้หน้าผมอย่างจับผิด
ดวงตากลมมองผมในชุดเทควันโด ก่อนจะสะดุดเข้ากับสายคาดเอวของผม
“สายดำเลยหรอ”
“อืม”
“สิ่งที่นายชอบคือ..”
“เตะต่อย”
ผมยักคิ้วให้คนสวย
ก่อนจะดึงให้เขามายืนอยู่บนเบาะ
“ให้เริ่มก่อนเลย
ไม่ต้องสนท่าอะไรหรอก เอาเลย เริ่ม!”
ลู่หานกำหมัดแน่นแล้วพุ่งตรงเข้ามาเตะสีข้างผม
แต่ก็ไม่ทันเพราะถูกผมจับข้อเท้าแล้วเหวี่ยงตัวลู่หานทุ่มลงพื้นดังตุบ
ร่างเล็กนอนจ้องหน้าผมอย่างอาฆาต
ในขณะที่ผมหัวเราะคิกๆชอบใจพร้อมกับกระโดดเหยงๆในท่าการ์ด
นางฟ้าคริสเตียนทำไมอ่อนปวกเปียกแบบนี้ฟะ
“ง่วงก็ไปนอนที่ห้องดิ
ที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนนะครับ ฮ่าๆๆ”
“จะเล่นใช่มั้ย!”
สิ้นสุดคำนั้นลู่หานก็ลุกขึ้นจากเบาะแล้วตรงเข้ามารัวหมัดทุบตัวผมใหญ่
ใบหน้าหวานดูหมั่นไส้ผมเอามากๆแล้วระดมทุบ ต่อย เตะ ไอ้ผมก็หัวเราะครับจั๊กจี้
แต่โดนไปโดนมามันก็เจ็บเหมือนกันนะเนี่ย
ผมก็เลยจับนางฟ้าคริสเตียนทุ่มเอาๆจนเขาหมดแรง
“นายมันขี้โกงนี่นา..”
เสียงหวานเอ่ยบอกเมื่อผมจับเขาทุ่มอีกครั้ง
ทุกครั้งที่ลู่หานจะหล่นกระแทกเบาะผมก็จะเอามือรองศีรษะเขาไว้ด้วยเสมอ
ทำให้ตอนนี้เราอยู่ในท่าล่อแหลมพอสมควร
เสียงหอบหายใจด้วยความเหนื่อยของเราสองคนดังปะปนกัน
มือเล็กทั้งสองข้างแผ่ออกข้างลำตัว
ในขณะที่ผมเอามือรองหัวกลมๆของนางฟ้าคริสเตียนเอาไว้อยู่และใช้ศอกค้ำเบาะ
อีกนิดจะคร่อมลู่หานแล้ว เราจ้องตากันไปมาอยู่อย่างนั้น..
“สนุกมั้ย”
“ลองมาโดนจับทุ่มมั้ยล่ะ
นายจะได้รู้ว่ามันสนุกหรือไม่สนุก”
ผมหัวเราะ “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ไม่เจ็บ นายล่ะ”
“ผมเป็นอดีตอันธพาลนะครับ
แค่นี้ยังไม่สะกิดผิวเลย”
“น่าหมั่นไส้จริงๆ” ลู่หานยู่หน้าใส่ผม
“หมั่นไส้หรอ หมั่นไส้หรอ”
ผมใช้มือซ้ายจั๊กจี๋ร่างเล็กใต้อาณัติ
ลู่หานขดตัวงอพร้อมกับหัวเราะออกมาสุดเสียง บ้าจี้เหมือนกันนี่หว่า อย่างนี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนโอเซฮุนเด่ะ
ได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะน่ารักๆผมก็ชื่นใจ
แกล้งไปนิดเดียวก็หยุด ลู่หานดูอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว
“ที่ไม่อยากให้บ้าทำงานก็เพราะเป็นห่วงนะ
รู้มั้ย” ผมกระซิบบอกเขา
“...”
“กลับดึกๆมันอันตราย แท็กซี่สมัยนี้ยิ่งไม่น่าไว้ใจ
หน้าตาสวยๆอย่างนี้ยิ่งล่อเป้าเข้าไปใหญ่ เข้าใจความห่วงของผมมั้ยครับนางฟ้า”
ลู่หานพยักหน้าหงึกหงัก
“แล้วอีกอย่าง
ที่ฉันไปส่งนายที่คอนโดทุกวัน เสาร์อาทิตย์ก็ไปหานายที่คอนโดตลอด
รู้ใช่มั้ยว่าคนมันคิดถึง อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับนายนานๆ
ฉันชอบเวลาอยู่กับนายมากเลยนะ”
“ฉันก็ชอบเวลาอยู่กับนายเหมือนกัน..”
“...”
“ชอบมากๆเลยด้วย”
รอยยิ้มสวยๆส่งมาให้ผมใจเต้นตึกตักอีกครั้ง
ผมดีใจที่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไป และลู่หานก็ยอมรับฟังมัน
เวลาดีๆแบบนี้
ทำให้จูบของเราเริ่มได้ไม่ยากเลย.. แต่พอผมจะโน้มหน้าลงไปประทับริมฝีปาก
มือเล็กกลับดันหน้าผมเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวเด็กๆมาเห็น” ลู่หานบอกอายๆ
“ฝากไว้ก่อน กลับห้องเมื่อไหร่โดนแน่”
“ฉันจะเอาไม้มาตีหัวนายให้ความจำเสื่อม
อ๊ะ.. เซฮุน ทำอะไร!”
ผมผละออกจากซอกขาวก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่ม
มือเล็กกุมซอกคอของตัวเองเอาไว้แล้วมองหน้าผมตื่นๆ
อย่าบอกนะว่านางฟ้าคริสเตียนไม่รู้จักคิสมาร์ก..
“มัดจำเอาไว้ก่อน”
“นายกัดหรอ เมื่อกี้มันเจ็บๆ”
“ไม่ได้กัด!” ดูดต่างหาก
“แล้ว..”
“ไปกินข้าวกันเหอะ หิวแล้ว”
มือแกร่งดึงมือเล็กให้ลุกขึ้นยืนแล้วดึงลากให้เข้าไปเปลี่ยนชุดด้วยกัน
ลู่หานทำไมใสแบบนี้ หรือว่าผมหมกมุ่นไปเองกันแน่วะ น่าจะอย่างหลัง
แล้วนี่อย่าบอกนะเขาว่าคิดว่าผมกัดคอเขาแกล้งเล่นเฉยๆ มันมีความหมายมากกว่านั้นนะ!
รอยสีแดงๆประทับอยู่บนซอกคอขาวนั้น..
ถ้าลู่หานเห็นเข้าจะทำหน้ายังไงนะ..
เราไปทานข้าวเที่ยงกันแถวๆโรงฝึก
ผมพาลู่หานมากินร้านประจำที่ผมมากินบ่อยๆตั้งแต่สมัยประถม
พอคุณลุงเห็นว่าผมพาคนสวยมาก็เอ่ยปากแซวกันยกใหญ่ อย่าอิจฉาเลยลุง
สวยแต่ดุมีจริงในโลก
“พาร์ทบ่ายเป็นตานายแล้ว
จะพาฉันไปไหนบอกมาได้เลย”
ผมถามลู่หานเมื่อเราขึ้นมาอยู่บนรถกันแล้ว
แอบตื่นเต้นนิดๆว่าเขาจะพาผมไปไหน ทำอะไร ลู่หานชอบทำอาหาร
อาจจะพาผมไปโรงเรียนสอนทำอาหารก็ได้มั้ง
“ขับรถไปตามที่ฉันบอก เดี๋ยวก็รู้เอง”
แถมยิ้มสวยๆตบท้ายซะด้วย..
เชี่ย.. ผมไม่น่าไปหลงกลกับรอยยิ้มสวยๆนั่นเลย
รถคันหรูเลี้ยวเข้ามาภายในโรงเรียนคริสเตียน
วันนี้เป็นวันหยุดแต่คนกลับเยอะมันทำให้ผมประหลาดใจ
ยังกับมีงานโรงเรียนอะไรสักอย่าง..
ลู่หานยิ้มอย่างร่าเริงแล้วเปิดประตูลงจากรถ
กวักมือเรียกผมที่นั่งเด๋ออยู่ในรถให้ตามเขาออกไป
โรงเรียนศัตรูผมไม่ค่อยอยากเหยียบเท่าไหร่ แต่ผมก็ต้องยอมทำตามที่เราตกลงกันไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วันนี้ผมก็แต่งตัวสไตล์เดิม เสื้อยืดไม่มีลายกับกางเกงยีนส์สวมรองเท้าผ้าใบ
ทุกอย่างเป็นลายเรียบๆและสีดำทะมึน ปล่อยผมให้ปรกหน้าผากตามธรรมชาติ ส่วนลู่หานใส่เสื้อแขนยาวกับกางเกงยีนส์
แต่งตัวแค่นี้ยังดูน่ารักน่ากอดสุดๆ
ไม่แปลกใจว่าทำไมทั้งโรงเรียนเขาถึงได้โหวตให้เป็นนางฟ้า..
ยิ่งเดินเข้าไปในโรงเรียนก็ยิ่งเห็นคนเยอะขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งลู่หานลากผมเข้าไปในหอประชุมก็พบกับเด็กคริสเตียนจำนวนเกือบร้อยคนเลยทีเดียว
พวกเขากำลังนั่งตัดกระดาษ ระบายสี จัดซุ้ม จัดบอร์ด บ้างก็เป่าลูกโป่งทำลานเกมส์
ผมยืนมองด้วยความตะลึง เกิดมายังไม่เคยมีโมเมนต์อุทิศตนเพื่อส่วนรวมเลย
ไอ้งานโรงเรียนที่รอยอลน่ะมี แต่ผมไม่เคยเข้าไปแตะเลยสักครั้ง(เป็นลูกผอ.ที่ดีมาก)
“อ้าว พี่นางฟ้า มาแล้วหรอครับ”
เด็กหน้าตาดีคนหนึ่งทักลู่หาน เขากำลังอุ้มถังสีถังใหญ่ท่าทางหนักเอาการ อยากจะบอกว่าลู่หานเดินผ่านกลุ่มไหนเขาก็ทักทายลู่หานอย่างเป็นมิตรกันหมดแถมยังเรียกพี่นางฟ้าๆ
ยังกับนางฟ้ามาโปรด ฮอตใช่เล่นเลยเว้ย..
“อื้อ ซุ้มเราถึงไหนแล้วอ่ะ”
“ยังไม่เสร็จเลยพี่ ขาดคนระบายสี
คนตัดกระดาษ พับดอกไม้”
“อยากได้คนช่วยมั้ย”
“อยากดิพี่!”
ผมที่ยืนมองนู่นนี่นั่นอยู่ดีๆ
พอหันกลับมาอีกทีก็เจอกับสายตาปิ๊งๆของไอ้เด็กหัวมันฝรั่งตรงหน้า เชี่ย ขนลุก ไอ้ห่า
“ใช้งานได้ตามสบายเลยนะ”
“ขอบคุณมากครับพี่นางฟ้า พี่!
พี่ตามผมมาเลย”
“กูหรอ” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ใช่ครับ!”
นางฟ้าคริสเตียนยิ้มให้ผมพร้อมกับดันหลังให้ตามน้องคนนั้นไป
มาด้วยกันดิ ผมดึงมือลู่หานให้ตามผมมาด้วย อย่าลอยแพคนหล่อดิเฮ้ย
เราทั้งสามคนเดินมาถึงซุ้มใหญ่ของโรงเรียน
ป้ายอันเบ้อเร่อประมาณสิบคนโอบวางพิงผนังเอาไว้
มีเด็กสองสามคนนั่งระบายสีป้ายนั้นอยู่
ตรงหน้าของผมมีกองกระดาษสีๆวางอยู่พร้อมกับกรรไกร
“พี่ พับดอกไม้เป็นป่ะ”
“ดูหน้ากู”
ไอ้เด็กหัวมันฝรั่งหัวเราะแหะๆแล้วยกถังสีไปให้ทีมทำป้าย
ลู่หานเองก็ไปช่วยเขาระบายสี ผมกำลังจะเข้าไปช่วยระบายสีดีกว่ามานั่งพับดอกไม้ปัญญาอ่อนแต่ก็ถูกไอ้เด็กนั่นดึงให้ผมนั่งลงกับพื้น
อะไรวะ เดี๋ยวกูยกพวกต่อยแม่ง
“เดี๋ยวผมพับดอกไม้เอง
พี่ตัดกระดาษเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดประมาณนี้ ตัดเยอะๆเลยแล้วส่งมาให้ผม
โอเคนะพี่”
มันเอาตัวอย่างกระดาษสี่เหลี่ยมยื่นให้ผม
เออ มาถึงขั้นนี้แล้วยังจะถามอีกว่าโอเคไม่โอเค วู้
หันไปมองลู่หานอีกรอบก็พบว่าเขากำลังร่าเริงและดูมีความสุขกับการได้ทำกิจกรรมกับคนเยอะๆ
รอยยิ้มสดใสนั้นทำให้ผมพลอยมีความสุขไปด้วย
ความสุขของคนเรามันไม่เหมือนกันจริงๆแฮะ
ผมตัดกระดาษไปเรื่อยๆ ไอ้เด็กหัวมันฝรั่งแม่งเก่งใช่เล่น
พับกระดาษทบกันแล้วตัด คลี่ออกมากลายเป็นดอกไม้เฉยเลย มันมีวิธีอะไรแบบนี้บนโลกด้วยหรอวะเนี่ย
โคตรความรู้ใหม่
“พี่ชื่ออะไรอ่ะ” มันชวนผมคุย
“เซฮุน”
“ผมชื่อมาร์ค อยู่เกรดสิบครับ”
“กูเกรดสิบเอ็ด
มึงทำงานตุ๊ดๆพวกนี้เป็นด้วยหรอ”
“เด็กกิจกรรมทำได้หมดแหละพี่ พี่นางฟ้าก็ทำเป็นนะ”
“เออ กูไม่แปลกใจ
เด็กกิจกรรมตัวยงขนาดนั้น”
“พี่ลู่หานเค้าชอบช่วยเหลือคนอื่นแบบนี้แหละครับ
เรียนก็หนักแล้วยังต้องทำกิจกรรมหัวหมุนอีก”
แถมยังไม่มีเวลาให้แฟนด้วยครับมึง..
“ไม่รู้ว่าวันนี้พี่นางฟ้าจะรีบกลับอีกหรือเปล่า
ขาดพี่นางฟ้าไปคนนึงงานกร่อยไปเยอะเลย”
“รีบกลับ หมายความว่าไง”
“ช่วงนี้ที่โรงเรียนจัดงานวันสถาปนากันอ่ะพี่
เด็กหลายๆคนก็อยู่ถึงดึกตีสี่ตีห้านู่นเลยกว่าจะกลับบ้านกัน บางคนก็อยู่นอนค้างโรงเรียนทั้งอาทิตย์
แต่พี่นางฟ้าเค้าดูรีบๆกลับบ้านยังไงชอบกล พอเลิกเรียนก็รีบมาทำงานส่วนของตัวเองให้เสร็จเร็วๆแล้วก็หายวับกลับบ้านไปเลย
สงสัยกลัวพ่อแม่ดุมั้งพี่”
“...”
คำพูดของไอ้เด็กมาร์คทำให้ผมนิ่งไปนิด..
ลู่หานรีบกลับบ้านอย่างงั้นหรอ.. เขารีบกลับก็เพราะกลัวผมรอนานเพราะผมต้องไปส่งเขาที่คอนโดทุกเย็น
รีบกลับเพื่อจะได้อยู่กับผมทั้งที่งานของตัวเองก็ยุ่งแทบตาย..
‘นายนั่นแหละที่ไม่เข้าใจฉัน
ไอ้ทึ่ม!’
‘ฉันก็ชอบเวลาอยู่กับนายเหมือนกัน..’
‘ชอบมากๆเลยด้วย’
นี่ผมงอนบ้าอะไรอยู่วะ..
ผมมันแม่งไม่เคยรู้อะไรเลย
ลู่หานเองก็ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อให้เราสองคนได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ
ผมมันทึ่มเองอย่างที่ลู่หานบอก คิดแต่จะให้เขาเข้าใจ
เป็นผมเองที่ไม่เคยเข้าใจเขาเลย
ให้ตาย..
นางฟ้าคริสเตียนแคร์ผมมากกว่าที่ผมคิดซะอีก
“เออแล้วพี่ก็อยู่คริสเตียนหรอ ผมไม่เคยเห็นหน้าเลย”
“กูอยู่โรงเรียนรอยอล”
“อ้าว แล้วทำไมรู้จักกับพี่ลู่หานอ่ะครับ
พี่เป็นอะไรกับพี่ลู่หาน”
ผมยิ้ม ก่อนจะตอบมันไปว่า
“สามี”
ไอ้เด็กมาร์คทำหน้าช็อกเหมือนผมกำลังใบ้หวยรางวัลที่หนึ่งให้มัน
“ผมนึกออกแล้ว
พี่คืออันธพาลรอยอลที่จีบพี่นางฟ้าใช่ป่ะ!”
“ทำไมชื่อเสียงกูแย่แบบนั้น”
“โห่พี่! ผมโคตรนับถือพี่เลย สอยนางฟ้าขวัญใจของคนทั้งโรงเรียนไปครอบครอง
นี่มีทั้งนักบาสของโรงเรียน นักฟุตบอล นักว่ายน้ำ แล้วก็ประธานนักเรียนมาจีบพี่นางฟ้าเลยนะพี่แต่เขาก็ไม่สน”
“เดี๋ยวๆ
มึงว่าไงนะ ทำไมคนจีบลู่หานเยอะขนาดนั้น เดี๋ยวกูยกพวกตีแม่งให้หมด”
“เอาเลยพี่!”
ไอ้สัด
มึงควรห้าม
“เดี๋ยวกูมานะ
ไปเข้าห้องน้ำแป๊บ”
“ครับพี่”
ผมลุกขึ้นยืนก็พบว่าปวดขาชิบหาย
นั่งตัดกระดาษหมดไปสามม้วนนี่กูผ่านมาแล้วมอบโล่ให้ที
ไอ้เด็กมาร์กยังคงนั่งตัดดอกไม้ฉับๆอย่างโคตรเทพ ผมเดินไปสะกิดลู่หานที่นั่งยองๆระบายสีแผ่นป้ายอยู่
พอใบหน้าหวานหันมาหาผมก็พบว่าหน้าเปื้อนสีชมพูหน่อยๆตรงแก้ม
“ไปเข้าห้องน้ำกัน”
“เดี๋ยวพี่มานะ”
เสียงหวานหันไปบอกรุ่นน้องก่อนจะวางแปรงลงบนถาดสี
เราสองคนเดินมาเข้าห้องน้ำหลังโรงเรียนที่ปราศจากผู้คน
ผมดึงแขนลู่หานให้เข้ามาในห้องน้ำห้องเดียวกันแล้วจึงล็อกประตูแน่นหนา
ก่อนที่ลู่หานจะได้โวยวาย
ผมสวมกอดเขาแน่นแล้วซบใบหน้าลงบนบ่าเล็กๆ
“ขอโทษ..
ขอโทษ ขอโทษ”
“ขอโทษเรื่องอะไร”
ลู่หานกอดผมตอบอย่างงงๆ
“ฉันแม่งงี่เง่าเอง
งอนไม่เข้าเรื่อง อย่าถือสาเลยนะ”
เสียงใสหัวเราะออกมาเบาๆ
“ฉันเองก็ผิดที่ไม่ค่อยมีเวลาให้นาย
พยายามสุดๆได้เท่านี้แหละ”
“ไม่ต้องโทษตัวเองเลยนางฟ้าบ๊อง”
“เข้าใจซะทีนะตาทึ่ม”
“เข้าใจแล้วว่ารักกันมากแค่ไหนอ่ะ”
“...”
“ที่งอนนี่ก็เพราะรักนะ
รู้ป่ะครับ”
“รู้แล้ว”
น้ำเสียงน่ารักแบบนี้
ลู่หานกำลังเขินแก้มแดงชัวร์ๆ
ผมผละกอดออกมาแล้วจ้องหน้าลู่หาน
ใช้สายตาสื่อความรู้สึกในใจของผมให้เขาได้รู้..
“มีแฟนเป็นเด็กกิจกรรมก็ต้องอดทนเหมือนกันนะเนี่ย”
“น่าสงสารจัง”
“จูบปลอบหน่อย”
“ไม่เอา
ทะลึ่ง”
“แล้วยิ้มทำไม”
“อะไร
ใครยิ้ม”
“ยังติดค้างจูบตั้งแต่ตอนอยู่โรงฝึกนะ
มาให้จูบซะดีๆ”
ผมยื่นหน้าทะเล้นเข้าไปใกล้นางฟ้าคริสเตียนเรื่อยๆ
รอยยิ้มจางๆยังคงติดอยู่บนใบหน้าของเราทั้งสองคน ลู่หานหลับตาปี๋เมื่อริมฝีปากของผมใกล้จะแตะลงบนริมฝีปากของเขา
ยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนผมกำลังจะจูบเจ้าหญิงที่น่ารักองค์หนึ่ง
ถ้ามาร์คมันเห็นปากของพี่นางฟ้าบวมๆแดงๆ
คงได้ล้อไปจนถึงชาติหน้าแน่ๆ..
END
SPECIAL & Happy Birth Day พบต!
#ฮุนเตอร์บอย