HUNTER BOY : รักเดือดๆของหนุ่มเลือดร้อน
{Chapter 2}
18:00 น.
เสือก
: ว่างยัง
เสือก : ว่างแล้วตอบหน่อยเด่ะ
กดแป้นพิมพ์รัวๆอย่างกับนักแชทตัวยง
ปลายนิ้วเคาะขอบโทรศัพท์ที่พึ่งไปเปลี่ยนฟิล์มมาเบาๆเพื่อรอคนที่ผมคุยด้วยเพียงคนเดียวในไลน์ตอบกลับ
เสือก : ไม่ตอบเดี๋ยวโทรหานะ
เสือก : เอาจริง
เสือก : ไม่ว่างขนาดตอบไลน์เลยหรอวะ
เสือก : *ตัดวะออก
เสือก : หกโมงแล้วยังทำกิจกรรมอยู่หรือไง
เสือก : นับหนึ่งถึงสาม ไม่ตอบโทร
เสือก : 1
เสือก : 2
ไม่เสือก : ส่งมาอะไรนักหนาเนี่ย
เสือก : โห แม่คุณ กว่าจะตอบ
ไม่เสือก : อ่านชื่อไลน์อีกครั้ง
“เชี่ย..”
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ จะมีใครรู้มั้ยเนี่ยว่านางฟ้าคริสเตียนกวนตีนขนาดนี้
เสือก : ทำไรวะ
เสือก : ตอบช้า โทรศัพท์ฉันเน็ตเร็วมากนะ
ไม่เสือก : พึ่งอาบน้ำเสร็จ
เสือก : ไม่เชื่อ
ไม่เสือก : นี่
ไม่เสือก : send you a photo
ไม่เสือก : เชื่อยัง
นางฟ้าคริสเตียนส่งรูปมาให้ผม
เขาเอาผ้าขนหนูคลุมหัว เส้นผมเปียกแฉะมีหยดน้ำติ๋งๆเลย
เสือก : อ้าว อยู่โรงเรียนนี่หว่า
เสือก : ไม่กลับคอนโด
ไม่เสือก : ก็บอกว่ามีกิจกรรมไง นอนที่โรงเรียนจนถึงวันศุกร์เลย
เสือก : เช็ดผมให้แห้ง
เสือก : น้ำหยดเป็นน้ำตก
ไม่เสือก : กล้องนายชัดดีเนอะ เห็นขนาดน้ำหยดติ๋งๆ
เสือก : เห็นชื่อไลน์มะ
เสือก : เสือกแปลว่าใส่ใจ
ไม่เสือก : อ้วก
เสือก : ว่าจะถาม
เสือก : มีใครไลน์มาถี่ๆบ้างป่ะ
ไม่เสือก : ไม่มีนะ แต่วันนี้มี แบร์ ลิลลี่ ฮากิ เชอร์รี่
แล้วก็มินาไลน์มาหานาย
ครบองค์ประชุมเลย..
เสือก : ทิ้งไว้งั้นแหละ ไม่ต้องตอบ
ไม่เสือก : อยากตอบตายแหละ
ไม่เสือก : สาวเยอะเหมือนกันนะ
เสือก : send a photo
เสือก : ดูหน้าครับ
ไม่เสือก : อี๋ ทำไมไม่ใส่เสื้อ
เสือก : อยู่ห้องคนเดียวใครจะมาเห็นวะ
เสือก : *ตัดวะออก
ไม่เสือก : เดี๋ยวส่งรูปต่อให้น้องแบร์ของนายซะเลย
เสือก : เฮ้ย อย่านะ เดี๋ยวรูปว่อนไปทั่วโรงเรียนนะเว้ย
ไม่เสือก : จะส่งละน้าาาาา
เสือก : เชี่ย
เสือก : ไม่เอาดิลู่หาน
เสือก : ถ้าส่งบุกคริสเตียน
ไม่เสือก : มาคนเดียวระวังโดนตื้บนะ
เสือก : ไม่กลัว
ไม่เสือก : โห ใจเย็นๆนะHOON
เสือก : สวยก็พออย่ากวนตีนได้ป่ะครับ
เสือก : เดี๋ยวจะโดน
ไม่เสือก : โดนไร
เสือก : สวยๆแบบนี้จะให้ทำอะไรล่ะ
เสือก :
:’)
ไม่เสือก : ไอ้ทุเรศ
เสือก : อ้าวๆ พูดคำหยาบงี้ผมไม่คุยด้วยนะครับ
ไม่เสือก : อ่านชื่อไลน์นายสามรอบเสียงดังๆ
ผมระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง
ยอมแพ้ก็ได้วะ..
ไม่เสือก : มีอะไรอีกมั้ย จะไปทำงานต่อแล้ว
เสือก : อ้าว ค่ำแล้วยังทำงานอีก
ไม่เสือก : เลือกไม่ได้นี่นา
เสือก : กินข้าวยัง พักผ่อนด้วย
ไม่เสือก : โห เสือกนะเนี่ย
ไม่เสือก : เสือกแปลว่าใส่ใจไง
.
.
นางฟ้าคริสเตียนแม่งเล่นกูแล้วไง..
เสือก : ก็เสือกไง
เสือก : เสือกนะ
ไม่เสือก : วันนี้หนาว ใส่เสื้อนอนด้วย ไอ้ชีเปลือย
เสือก : เสือกหรอ
ไม่เสือก : เออ
เชี่ย.. โคตรร็อค แต่น่ารัก
ผมกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์
ลึกๆในใจรู้สึกอยากคุยต่อชิบหายแต่เค้ามีงานต้องทำก็เลยไม่กวนก็ได้วะ อ้าวแล้วนี่กูยิ้มทำไม
หุบยิ้ม ไอ้สัด
หุบไม่ได้..
สรุปยังไม่ได้เข้าท็อปปิกเอาโทรศัพท์คืนแต่อย่างใด
ผมคงต้องรอยาวๆไปจนถึงวันศุกร์ อีกสองวันเอง รอเอาโทรศัพท์คืนทำไมต้องดีใจด้วยวะ
ดีใจที่จะได้โทรศัพท์คืนแน่ๆเลยกู
ผมลุกจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อมาใส่
ถอดเสื้อพันแผลตรงสีข้างเฉยๆหรอกน่าผมไม่ใช่ชีเปลือยเดินถอดเสื้อผ้าว่อนเกาหลีซะหน่อย
อาหารของวีวี่ใกล้จะหมดแล้ว
นมกล่องก็หมดแล้วด้วย สงสัยผมคงต้องออกไปซื้อแล้วล่ะ
ผมเดินมาซุปเปอร์มาร์เก็ตหน้าปากซอย
แผลตามตัวของผมเริ่มจางลงและหายดีไปทีละจุด สงสัยร่างกายปรับตัวให้เข้ากับชีวิตและความเป็นอยู่ของผมที่ต้อง(โดน)หาเรื่องทุกวัน
ว่าแต่ไอ้รอยกระจกบาดตรงสันจมูกกับข้างแก้มเนี่ยท่าทางจะหายช้าแล้วก็ฝากรอยแผลเป็นไว้แหงๆ
ผมเดินไปหยิบอาหารสุนัข นมกล่องสองแพ็ก
และยาทาลดรอยแผลเป็นที่ร้อยวันพันปีผมไม่เคยสนใจจะซื้อมันมาทา
เอ๊า..
หน้าตาก็เหมือนประตูบานแรกของหัวใจ ใครจะอยากมีแผลเป็นบนหน้าวะ
ผมเอาของทั้งหมดไปจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์
พี่พนักงานยังคงมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าและเท้าขึ้นจรดหัว
พอผมเดินออกจากร้านปุ๊บก็หันไปกรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนกันใหญ่
เท่าที่ได้ยินผ่านๆก็อย่างเช่น แบดบอย แผลเต็มตัวแต่เท่โคตร ตัวสูง หุ่นดี หล่อ
บลาบลา
ผมไม่ได้เป็นคนเพอร์เฟกต์หรอก..
มีอีกหลายอย่างที่ผมยังขาด
แบดบอยบ้าอะไรซื้ออาหารสุนัขกับนมกล่อง
ผมหัวเราะออกมาเบาๆระหว่างทางเดินกลับบ้าน คิดแล้วมันก็น่าขำ
ภายนอกของผมนี่ดูน่ากลัวหรือยังไงก็ไม่รู้นะถึงได้คิดว่าผมนั้นโหดเป็นอันธพาล
เดินมาตามทางเอื่อยๆก็พบว่าวันนี้อากาศเย็นจริงๆตามที่นางฟ้าคริสเตียนบอก
ป่านนี้เขาจะทำงานเสร็จรึยังวะ อากาศก็เย็น มีผ้าหนาๆห่มหรือเปล่า
เสือกเรื่องเขาอีกแล้ว..
ผมเดินมาหยุดอยู่ที่พุ่มไม้ที่เดิม
ทำเสียงเรียกเจ้าวีวี่ให้ออกมากินข้าว
แต่น่าแปลกที่มันไม่กระโดดหยองแหยงออกมาหาผมเหมือนทุกๆวัน ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย
วีวี่ไม่สบายหรือเปล่า
พุ่มไม้ถูกแหวกออกก็เห็นบ้านไม้สีฟ้าที่ผมไปซื้อมาไว้ให้มันอยู่
“วีวี่”
เรียกมันอีกสองสามครั้งก็ไม่มีเสียงเห่าบ๊อกๆตอบรับกลับมา
ผมเดินหามันจนทั่วบริเวณพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อมันไปด้วย มันจำเสียงผมได้
“วีวี่! นายอยู่ไหนน่ะ ไม่เคยออกไปเล่นซนที่ไหนนี่หว่า”
เป็นเพราะมันถูกทิ้งมันก็เลยกลัวการออกไปผจญโลกภายนอก
มันคงเป็นสิ่งเดียวที่ผมกับมันแตกต่างกัน เพราะผมมันจอมลุย
วิ่งหาจนทั่วทั้งซอยแล้วก็ยังไม่เจอ..
ให้ตายเถอะ วีวี่หายไป..
ผมเป็นห่วงกลัวว่ามันจะโดนรถชนหรือเปล่า
หรือว่ามีใครมาพาตัวมันไป คิดได้แบบนั้นจึงวกกลับไปยังพุ่มไม้ต้นเดิมอีกครั้ง
กระเป๋าสตางค์ของใครบางคนหล่นอยู่ข้างบ้านวีวี่..
“เด็กคริสเตียนอีกแล้วหรอ..”
“ทำของหล่นเป็นซินเดอเรลล่าทิ้งรองเท้าแก้วไว้ให้ตามตัวเจอเลยนะมึง”
ผมแสยะยิ้มมุมปากเมื่อตรวจดูว่ากระเป๋าสตางค์นั่นเป็นของใคร
บ้านมันอยู่ซอยถัดไปนี่เอง รวยไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
มันเป็นลูกน้องของไอ้ซึงโฮผมจำหน้ามันได้
ท่าทางว่าแผลบนใบหน้าของผมจะยังไม่หายดีง่ายๆซะแล้วว่ะ..
นิ้วชี้จิ้มกดออดรัวๆที่หน้าบ้านหลังใหญ่แต่ยังเล็กกว่าบ้านของผอ.โรงเรียนรอยอลหลายเท่า
ไม่นานก็มีแม่บ้านวิ่งกระหืดกระหอบออกมาถามผม
“มาหาใครคะ”
“ผมเก็บกระเป๋าตังค์ของปาร์คชินอูได้”
ผมชูกระเป๋าตังค์ให้แม่บ้านดู
“ผมอยากเจอเขา
ไปเรียกเขาออกมาหาผมหน่อย”
“ดะ.. ได้ค่ะ”
แม่บ้านวิ่งกลับเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง
ผมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม หักข้อนิ้วมือดังกรอบ
ดึงพลาสเตอร์ที่คาดสันจมูกและข้างแก้มออกไป
ไม่นานไอ้หน้าอ่อนก็เดินออกมาจากบ้าน
ในอ้อมกอดของมันอุ้มสุนัขตัวหนึ่งที่ผมจำได้เป็นอย่างดีเพราะผมให้ข้าวมันกินทุกวัน
พอวีวี่เห็นหน้าผมก็เห่าบ๊อกๆพร้อมกับกระดิกหางอย่างดีใจ
“ไม่เห่าคนแปลกหน้านะลูก” มันลูบหัวเจ้าวีวี่ปลอบ
หมามีท่าทีแบบนี้คือเป็นมิตรโว้ยไอ้บ้า
“ลูกเหี้ยอะไร หมาขโมยคนอื่นเค้ามา”
“พูดเรื่องอะไรของนาย”
“คืนวีวี่มา
แล้วเอากระเป๋าตังค์ของมึงคืนไป”
“มะ.. ไม่! หมาตัวนี้กูเจอมันอยู่ข้างถนน มันเป็นของกูแล้ว”
“อย่าโกหกว่ามึงไม่เห็นบ้านสีฟ้าของมัน
เอาคืนมา!”
“มันไม่มีปลอกคอแสดงความเป็นเจ้าของ
เพราะฉะนั้นกูเลี้ยงได้”
“เฮ้ย อย่าไก่ดิ เอาคืนมา!!”
“...”
“ไม่คืนใช่มั้ย”
“เออ!”
ผัวะ!!!!
ห้องปกครองแอร์เย็นมาก..
เห็นหน้าอ่อนๆอย่างนั้น
ไอ้ปาร์คชินอูแม่งเสือกเป็นลูกนักการเมือง
การที่ผมไปต่อยหน้าลูกเขาหน้าบ้านแบบนั้นทำให้ผมต้องมาสงบเลือดร้อนของตัวเองที่ห้องปกครองแอร์เย็นมว้ากเช่นนี้..
แต่ผมได้วีวี่คืนมาแล้วก็ถือว่าคุ้ม
คราวนี้ผมใส่ปลอกคอให้มันแล้ว ใครจะมาตู่ว่าวีวี่ไม่มีเจ้าของได้ขึ้นเขียงกับกูแน่
“อาจารย์คงต้องเชิญผู้ปกครองของเธอมารับรู้พฤติกรรมนะ
โอเซฮุน”
“แม่ผมอยู่ออสเตรเลีย
ส่วนพ่อผมไม่ว่างหรอกครับ เรื่องของผมมันคือเรื่องเสียเวลาของเขา”
ผมพูดเสียงดังให้ทะลุกระจกไปถึงคนที่นั่งทำงานอยู่ห้องถัดไปได้ยิน
ห้องผู้อำนวยการโรงเรียนรอยอล..
ใบหน้าของผมได้แผลฟกช้ำเพิ่มมาอีกสองแผล
พลาสเตอร์แปะเพิ่มอีกหนึ่งแผ่น คาดสันดั้งหนึ่ง ข้างแก้มซ้ายหนึ่ง
และใต้คางอีกหนึ่ง ไอ้ปาร์คชินอูเห็นหน้าอ้อนตีนอย่างนั้นหมัดหนักใช่เล่น
โธ่เอ๊ย.. มีเรื่องกันเพราะเรื่องแย่งหมา ใครๆก็คงคิดว่าปัญญาอ่อน
แต่วีวี่คือเพื่อนของผม
ใครจะมาว่าผมปัญญาอ่อนหรือเสียสติผมไม่สน
อาจารย์มองหน้าผมแล้วทอดถอนหายใจออกมายาวๆ
ดูท่าทางจะเหนื่อยหน่ายใจกับเด็กเลือดร้อนสร้างแต่ปัญหาอย่างผมพอสมควร
“ยังไงผู้ปกครองของเธอก็ต้องมาพบอาจารย์นะ”
“ออกค่าเครื่องบินให้แม่ผมมั้ยล่ะครับ”
“พ่อของเธออยู่เกาหลี เชิญเขามา
บอกว่าอาจารย์เชิญ”
“เขาไม่มาหรอกครับ
บอกแล้วไงว่าเรื่องของผมคือเรื่องเสียเวลาของเขา มีลูกไม่ได้เรื่องเขาคงจะอาย
ให้เงินผมใช้มากมายก็เพื่อรับผิดชอบที่ทำให้ผมเกิดมาก็แค่นั้นแหละครับ”
พูดเองก็เจ็บจุกเอง..
ผมเบือนหน้าหนีจากอาจารย์ทันที ความจริงเรื่องนี้มันโหดร้ายกับผมจริงๆ
เสียงเปิดประตูจากห้องข้างๆและเสียงรองเท้าหนังดำขลับเดินเข้ามาภายในห้องปกครอง
อาจารย์ฝ่ายปกครองลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วโค้งหัวให้กับผอ.โรงเรียน
แถมยังส่งสายตาตำหนิมาให้ผมที่ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้มาโค้งคำนับผอ.อีก
ผมมองหน้าพ่อเนือยๆ
ส่วนพ่อก็มองหน้าผมนิ่งๆ
“ปล่อยเด็กไปเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“ค่ะ.. คะ?”
“เรื่องนักการเมืองปาร์ค
เดี๋ยวผมคุยให้เอง”
“ค่ะผู้อำนวยการ โอเซฮุน
ขอบคุณผู้อำนวยการสิ”
ผมกลอกตาขึ้นฟ้าก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้โค้งคำนับผู้อำนวยการอย่างสุดซึ้ง
“ขอบคุณค้าบบบบบบบบบบบบ”
พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องปกครองฉับๆ
ซึ้งใจตาย..
“เด็กก้าวร้าวประจำโรงเรียนน่ะค่ะ
สงสัยพ่อแม่ไม่อบรม ขอโทษแทนด้วยนะคะ” อาจารย์ฝ่ายปกครองบอกกับผอ.โรงเรียนก่อนจะก้มหัวขอโทษอีกครั้ง
“ผมคือพ่อของเขา”
“คะ.. คะ? อะไรนะคะ?”
“โอเซฮุนเป็นลูกชายคนเดียวของผม”
“...”
อาจารย์สาวใบ้กินไปแล้วด้วยความอึ้ง..
“ผมเป็นพ่อที่แย่มากใช่มั้ย”
“มะ.. ไม่หรอกค่ะผอ.”
“อาจารย์ครับ! ผม.. ผมไม่โดนพวกคริสเตียนแกล้งแล้ว”
ประตูห้องปกครองถูกเปิดออกพร้อมกับเด็กตัวเล็กที่มักเดินห่อไหล่พุ่งเข้ามาหาอาจารย์ฝ่ายปกครองอย่างดีใจ
แต่เมื่อเห็นผอ.โรงเรียนอยู่ด้วยก็โค้งคำนับและก้มหน้าสำรวมในทันที
“ทำไมพวกคริสเตียนถึงมาแกล้งเราล่ะ
โดคยองซู” เสียงทุ้มเข้มของผอ.เอ่ยถาม จนเด็กหนุ่มตัวสั่นด้วยความยำเกรง
“คือ..
เด็กคริสเตียนชอบเข้ามาแกล้งเด็กโรงเรียนเราเป็นประจำครับ ทั้งไถตังค์
ยกพวกต่อยตี.. ผมเองก็พึ่งโดนไปหมาดๆ
แต่ก็โชคดีนะครับที่ได้รุ่นพี่เซฮุนกับรุ่นพี่จงอินช่วยเอาไว้
ไม่งั้นผมแย่แน่ๆเลย”
“เซฮุนกับจงอินน่ะหรือ
อันธพาลประจำโรงเรียนเนี่ยนะ!?”
อาจารย์ฝ่ายปกครองถามเสียงหลงเมื่อได้ยินเรื่องแปลกยิ่งกว่าไก่ออกลูกเป็นตัว
แต่ก็ต้องหุบปากเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพ่อเขายืนอยู่ตรงนี้
“ครับ พี่เซฮุนเป็นอันธพาลก็จริง
แต่เขาไม่ทำร้ายใครก่อนนะครับ อีกอย่าง..
ถ้าใครมาแตะต้องเด็กโรงเรียนเราแม้แต่ปลายเล็บ พี่เซฮุนก็รีบไปจัดการทันที
เขาปกป้องโรงเรียนของเรานะครับ.. อาจจะผิดวิธีไปหน่อย
แต่อย่างพวกคริสเตียนก็ต้องเจอรุ่นพี่เซฮุนกับรุ่นพี่จงอินนี่แหละครับ”
แววตาชื่นชมของเด็กตัวเล็กตรงหน้าทำให้สีหน้าของผู้ใหญ่ทั้งสองเปลี่ยนไป
ก้าวร้าวก็เพื่อปกป้องเด็กในโรงเรียน ต่อยตีก็เพราะป้องกันตัวเอง..
“ผมเป็นพ่อที่แย่จริงๆด้วย..”
เสือก : ว่างป่ะครับ คุณนางฟ้า
เสือก : ว่างเหอะ
ไม่เสือก : ไม่ว่างหรอก แต่ก็คุยได้
ไม่เสือก : มีอะไรหรือเปล่า
เสือก : นายคิดว่าเด็กที่ชอบต่อยตี มีแผลเต็มตัว นิสัยจริงๆเป็นคนแบบไหน
เสือก : เอาจริงนะ ฉันโคตรอยากรู้ว่าในสายตาของคนอื่นน่ะมองฉันเป็นคนยังไง
เสือก : มันแย่มากเลยหรอวะ
ไม่เสือก : เฮ้ กำลังคิดมากนะเนี่ย
ไม่เสือก : นายโอเคนะ
เสือก : เสือกหรอ
ไม่เสือก : เออ เสือก
.
.
ไม่เสือก : ฉันเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเองนะ
ไม่เสือก : ถ้าคิดว่าเหตุของนายมันดีมากพอ
นายไม่จำเป็นต้องคิดถึงผลเลยว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน มีความสุขที่ได้ทำก็ทำไง
ง่ายจะตาย
เสือก : โคตรจะแม่คนที่สอง
เสือก : แล้วชอบป่ะ คนที่ได้แผลกลับบ้านทุกวัน มีเรื่องได้ทุกวัน
ไม่เสือก : ใครจะชอบ
ไม่เสือก : ถ้าคนนั้นเป็นคนที่ฉันห่วง
ฉันไม่ชอบหรอกนะถ้าจะเห็นเขามีแผลกลับมาบ้านทุกวัน
เสือก : เฮ้ย เดี๋ยวก็หาย
เสือก : แค่แผลเอง
ไม่เสือก : ได้แผลซ้ำมาทุกวันเมื่อไหร่จะหายล่ะคุณ
เสือก : ทีหลังแปลงร่างเป็นไอรอนแมนดีป่ะ
เสือก : จะได้ไม่เจ็บ ไม่มีแผล
ไม่เสือก : ตลก ไอรอนแมนบ้าเลือดอย่างนายทำคนทั้งโลกป่วนแน่ๆ
เสือก : ฉันไม่ได้เป็นคนโหดนะ
เสือก : อย่าคิดงั้นเด่ะ
ไม่เสือก : สาบาน
เสือก : ขอให้ได้แฟนสวยเลย
ไม่เสือก : น้องแบร์ของนายน่ะหรอ
เสือก : ไม่เอาเว้ย!
เสือก : *ตัดเว้ยทิ้ง
เสือก : โทรหาได้ป่ะ
หน้าจอแชทเงียบไปพักหนึ่ง..
ผมนั่งกัดปากตัวเองอย่างลุ้นๆ จริงๆเวลาแบบนี้ผมโคตรอยากอยู่คนเดียว
ก็เลยหลบมานั่งเล่นหลังห้อง แต่อยู่ๆมือของผมก็ล้วงไอโฟนจากในกระเป๋ากางเกงออกมากดแชทหานางฟ้าคริสเตียนซะงั้น..
เสือก : เฮ้ย ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ
เสือก : ไม่ซีเรียส
ไม่เสือก : เย็นๆแล้วกัน
ไม่เสือก : เรียนอยู่
เสือก : อ้าว ไหนบอกว่าคุยได้
ไม่เสือก : ก็นายไลน์มาแบบนั้นฉันจะทำไงได้ล่ะ
ไม่เสือก : สบายใจขึ้นแล้วนะ
เสือก : เดี๋ยวตอนเย็นโทรหา
เสือก : ตั้งใจเรียน คนขี้เสือก
ไม่เสือก : ไอ้ดั้งหัก
เสือก : แค่เป็นแผลตรงดั้งเฉยๆครับเลยเอาพลาสเตอร์แปะไว้ ไม่ได้ดั้งหัก
เสือก :
send a photo
เสือก : เรียนสู้ๆนะ
ผมถ่ายเซลฟี่เบ่งดั้งสุดฤทธิ์ไปให้ลู่หาน
หยามกันมากมาด่ากันไอ้ดั้งหักเนี่ย ส่วนไอ้เรียนสู้ๆนะนั่นมือมันไปเอง
ก็เห็นว่าเรียนอยู่นี่หว่าก็เลยให้กำลังใจไปงั้นแหละ งั้นๆ นอทติ้งสเปเชี่ยล
“ไม่เสือก ใครวะ”
“เชี่ย โทรศัพท์เกือบลอย
ไอ้เชี่ยจงอิน”
มันโผล่มาข้างหลังแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
ตกใจดิเหี้ยเอ๊ย มันทำหน้าล้อเลียนคนขวัญอ่อนกระทันหันอย่างผม
“เดี๋ยวนี้ติดแชทหรอวะ คุยกับใครอ่ะ”
“ไม่เสือก”
“ไม่เสือกน่ะใคร”
“อยากรู้ไปทำไม
ไม่มีอะไรสำคัญทั้งนั้นแหละ”
“ตอบเป็นดาราเลย กูไม่ถามก็ได้วะ
เดี๋ยวนี้มีความล้งความลับ”
“จงโทษตัวเองที่เสือกครับเพื่อน”
“olo”
มันชูนิ้วกลางบอกรักผมแล้วกลับไปนั่งที่ของตัวเอง
นางฟ้าคริสเตียนนี่แม่งนางฟ้าคริสเตียนจริงๆว่ะ..
อยากรู้จริงๆว่ามีใครได้คุยกับลู่หานแบบผมบ้างไหม
ตอนเขาคุยกับคนอื่นเขาเป็นเหมือนที่คุยกับผมหรือเปล่า
แอบหวั่นใจว่าคนสวยๆอย่างลู่หาน.. จะมีคนคุยมากมายยิ่งกว่าผมเสียอีก..
.
.
.
.
เวลาหนึ่งทุ่มตรง กับเด็กหนุ่มที่นั่งให้อาหารเจ้าวีวี่
“นางฟ้าว่างยังวะวีวี่ แม่งบอกเค้าว่าจะโทรเสือกไม่กล้าโทร”
“บ๊อกๆ”
“อะไร จะด่าว่าฉันใจเสาะหรอ
เปล่านะเว้ย เดี๋ยวเตะปลิว”
มือแกร่งขยี้ผมตัวเองอย่างรุนแรง
วีวี่มองเจ้านายของมันนิ่งๆราวกับงงว่าเจ้าเด็กเลือดร้อนตรงหน้าเป็นอะไรของมัน..
.
.
สองทุ่มสี่สิบห้า.. ห้องคอนโดของนางฟ้าคริสเตียน
ร่างบอบบางนอนหงายอยู่บนเตียงนุ่มๆของตนเอง
ในมือกำโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีรอยขูดตรงมุมเล็กน้อยจากแรงกระแทกที่ไม่ทราบที่มา
สงสัยทำตกตอนไปหาเรื่องชาวบ้านเค้าแหงๆ
ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูทุกๆสิบวินาทีก็ยังไม่มีแจ้งเตือนอะไรเข้ามา
ทำวนอยู่อย่างนี้ตั้งแต่หกโมงครึ่งแล้ว.. น้ำก็ยังไม่ได้อาบเลย
กลัวว่าเขาโทรมาแล้วจะไม่ได้ยินน่ะสิ
กิจกรรมของเรียนเสร็จสิ้นลงไปแล้วในวันนี้
ปวดเนื้อปวดตัวแทบแย่และอยากอาบน้ำเพื่อจะได้ผ่อนคลาย แต่ก็อาบไม่ได้สักทีเพราะมัวแต่รอนักเลงหัวไม้ติดต่อมา..
“สามทุ่มแล้ว ไม่รอแล้วนะ”
เสียงหวานเอ่ยขุ่นๆก่อนจะแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์สีดำเครื่องใหญ่
ร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงแล้ววางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนหมอน เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมจะเข้าไปอาบน้ำให้สบายตัว
มือกำลังจะเปิดประตูห้องน้ำ
เสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้น
ลู่หานเม้มปาก
ก่อนจะยอมถอยหลังเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหมอนขึ้นมา
เสือก : รับสายด้วยนะ
ไม่เสือก : อือ
เสือก : ไม่อยากคุยหรอ ตอบสั้นจัง
“อย่าไปคิดเองสิ..”
ไม่เสือก : อืออออออออออออออ
ไม่เสือก : ยาวยัง
เสือก : โทรละนะ
หัวใจดวงน้อยเต้นจังหวะแปลกๆ
ไม่นานก็มีสายเรียกเข้าจากเบอร์ที่ไม่ได้เมมเอาไว้
นิ้วโป้งเลื่อนกดรับสายก่อนจะยกโทรศัพท์แนบหู
.
.
“เฮ้ย รับสายแล้วอย่าเงียบดิ”
เสียงโวยวายจากเขาทำให้คนสวยเม้มปากเพื่อกลั้นยิ้ม
ก็มันไม่รู้จะรับสายว่าอะไรนี่นา เขาเป็นอันธพาลแถมยังทำนิสัยไม่ดีใส่กันอีก
พูดจาก็ไม่ลื่นหูเอาซะเลย..
“พูดหน่อย”
“หน่อย”
“กวนละครับ กวนละ”
“โทษที โทรหาช้าไปหน่อย”
“เกือบจะอาบน้ำนอนอยู่แล้ว”
“จริงป่ะ เฮ้ย อย่าพึ่งดิ คุยกันก่อน”
“งั้นเดี๋ยวอาบน้ำก่อนได้มั้ย
แล้วค่อยโทรมาใหม่ เหนียวตัวมากเลย”
“ได้ๆ อย่าพึ่งหลับนะ”
“รู้แล้วน่า”
“เดี๋ยวโทรไป”
“อื้ม”
.
.
.
ฝั่งเด็กหนุ่มที่ทำใจกล้าปั๊มความมั่นใจกับเจ้าวีวี่ตั้งนานค่อยๆเอาโทรศัพท์ออกจากหู
รอยยิ้มกว้างเผยบนใบหน้าหล่อที่อุดมไปด้วยรอยฟกช้ำ มือขวายกขึ้นทาบบริเวณอกข้างซ้าย
ตึก ตึก ตึก ตึก ..
“เชี่ย สงสัยกาแฟดีด”
“บ๊อกๆ”
แม้แต่สุนัขยังรู้ว่าอาการยิ้มกว้างของเจ้านายของมันนั่นคืออะไร
มีแต่เจ้าตัวนั่นแหละที่ยังไม่รู้..
“วีวี่ ไปนอนได้แล้วไป ฉันไปก่อนนะ”
ลูบหัวมันสองสามทีแล้วอุ้มเข้าบ้านสีฟ้าราวกับส่งเข้านอน
ร่างสูงวิ่งออกจากพุ่มไม้แล้วรีบวิ่งเข้าบ้านของตน รอยยิ้มจางๆยังคงติดอยู่บนใบหน้าไม่หายไปไหน
“ยืนทำใจอยู่ตั้งหลายชั่วโมง ยุงกัดจนแสบไปหมดทั้งขาเลยเว้ย”
นิ้วชี้จิ้มแซมบัคทาขาของตัวเองที่มีรอยจุดแดงๆเต็มไปหมดอย่างกับเป็นเอดส์
นั่งปรับทุกข์กับวีวี่ตั้งแต่หนึ่งทุ่ม พึ่งจะได้โทรจริงๆก็ตอนสามทุ่มนี่เอง
ก็แค่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง.. ชวนคุยยังไง
แล้วก็จะวกเข้าประเด็นเอาโทรศัพท์คืนยังไงดี
จริงๆมันไม่ใช่เรื่องยาก แต่พอเป็นลู่หาน ทุกอย่างมันกลับดูยากไปหมดสำหรับนักเลงหัวไม้อย่างเขา
เสียงข้อความไลน์เด้งเข้าทำให้เขาสะดุ้งจนทำแซมบัคตกพื้น
ไม่เสือก : อาบน้ำเสร็จแล้ว
“เฮ้ย เร็วจังวะ”
ก้มลงเก็บแซมบัคมาวางไว้บนโต๊ะ
ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเบอร์ของตัวเองทันที
ไม่ต้องเตรียมจงเตรียมใจอะไรมันแล้ว ขาลุยอย่างเขาต้องกลัวอะไรวะ
“โทรมาไวจัง”
เสียงหวานๆรับสายนั้นทำให้หัวใจที่สูบฉีดเลือดร้อนเต้นตึกๆขึ้นมาอีกครั้ง
“เดี๋ยวนายนอนก่อน”
“กลับคอนโดแล้วใช่ป่ะ”
“อื้ม”
“งานโรงเรียนเสร็จแล้วหรอ”
“เสร็จแล้ว เหนื่อยสุดๆ นายอย่าไปเป็นเด็กกิจกรรมเด็ดขาดเลยนะ
ฉันขอเตือน”
“ถึงไม่บอกก็ไม่สนอยู่แล้ว แผลเต็มตัวอย่างฉันคงทำให้โรงเรียนขายขี้หน้ามากกว่า”
“ก็หยุดหาเรื่องชาวบ้านเค้าซักทีสิ”
“บอกเด็กโรงเรียนนายเลิกมากวนเด็กโรงเรียนฉันดีกว่า เลิกปากดี เลิกกวนตีนด้วย”
“นี่ นายกำลังด่าฉันอยู่หรือเปล่า”
“ลืมไปว่าคุยกับนางฟ้าคริสเตียนอยู่”
เสียงทุ้มหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเอาตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม
ตามองเพดานไปเรื่อยเปื่อย..
“เซฮุน”
“ว่า”
“พรุ่งนี้นายว่างหรือเปล่า”
“ว่างมั้ง อาจตื่นสายหน่อย ทำไม”
“ฉันจะเอาโทรศัพท์ไปคืนนาย เจอกันที่ร้านกาแฟหน้าโรงเรียนนายก็แล้วกัน”
“อะ..เออ ได้”
พรุ่งนี้ผมจะได้เจอเขาแล้ว..
“พูดไม่เพราะอีกแล้ว”
“โห่ อย่าดุสิ”
“ก็นายมันน่าดุมั้ยล่ะ ฉันเป็นพี่นายแต่ยังเรียกเหมือนเพื่อนเลย”
“ดีกว่าพูดกูมึงก็แล้วกัน ปล่อยผ่านเห๊อะ”
“ถ้าเจอจะโบกหัวให้ซักที”
“เอาดิ ถ้าโบกถึง”
“นายก็ก้มสิ”
“เรื่อง”
“พรุ่งนี้เที่ยงตรง ห้ามสายนะ”
“โทรมาปลุกด้วยเด่ะ”
“มากมายว่ะนายอ่ะ”
“เออ โทรปลุกด้วย”
“รับด้วยล่ะ”
“ได้ๆ เออนี่ ว่าจะถาม”
“อะไร”
“ปลาอะไรใหญ่กว่าปลาวาฬ”
“ปลาวาฬชุบแป้งทอด พอใจยัง เอาจริง”
“555555555555
แม่ง เสียงโคตรเหวี่ยง เคๆไม่แกล้งแล้ว ถามจริงแล้ว”
“ว่ามา”
“ตอนคุยกับคนอื่นอ่ะ คุยแบบนี้หรือเปล่า”
“...”
“ไม่ได้ถามกวนตีนนะ ถามจริงๆ”
ลู่หานเงียบไปนิดนึง
ก่อนจะตอบผมด้วยเสียงจริงจังไม่แพ้กัน
“ถ้าบอกว่าไม่ล่ะ จะเชื่อหรือเปล่า”
“ตอบจริงป่ะล่ะ”
“เรื่องจริง ฉันไม่มีคนคุยเยอะแบบนายหรอกนะ”
“เฮ้ย โกหกป่าว”
“กิจกรรมเยอะขนาดนี้ ไม่มีเวลามาคุยโทรศัพท์จีบสาวแบบนายหรอก”
เชี่ย นางฟ้าคริสเตียนยังโสด..
ทำไมผมต้องดีใจด้วยวะ
“งั้น ขอเบอร์ได้ป่ะ”
“เบอร์ของนายอ่ะ”
“จะได้มีคนไว้คุย จะได้ไม่เหงาไง”
TBC.
#ฮุนเตอร์บอย
ชอบตอนคุยไลท์อะ หุบยิ้มไม่ได้เลย งื้ออออ
ตอบลบยิ้มตลอดดด ทะเลาะเพื่อแย่งหมาาาา เอ้ยแย่งเพื่อนนน
ตอบลบ