HUNTER BOY : รักเดือดๆของหนุ่มเลือดร้อน
{Chapter
4}
โต๊ะอาหารสุดหรูที่นั่งได้ประมาณยี่สิบคน
มีเด็กหนุ่มนั่งอยู่เพียงคนเดียวพร้อมกับแม่บ้านที่ยืนห่างออกไปประมาณสามเมตร
กินข้าวคนเดียวตั้งแต่เด็กจนชิน..
ถ้าลู่หานอยู่โรงเรียนเดียวกับเขา
คงไม่มานั่งตักข้าวต้มยัดปากเหงาๆตอนเช้าอยู่คนเดียวแบบนี้หรอก
“ขอกาแฟให้ฉันแก้วนึงสิ”
เสียงทุ้มเข้มของผู้อำนวยการโรงเรียนใหญ่ดังมาจากทางด้านหลังพร้อมกับดึงเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะออกมาหย่อนก้นนั่ง
เซฮุนทำหน้าแปลกใจ ร้อยวันพันปีไม่เห็นพ่อมานั่งจิบกาแฟตอนเช้า รีบไปโรงเรียนตั้งแต่ไก่โห่
“เรียนเป็นยังไงบ้าง”
“แค่กๆ”
คนซดข้าวต้มอยู่ถึงกับสำลัก อะไรวะ ดาวเทียมตกใส่หลังคาบ้านหรอ หรือพายุจะเข้า
ฟ้าจะถล่ม ดินจะทลาย
“ก็ดีครับ เรื่อยๆ ไม่ตก ไม่ท็อป”
“อยากเข้ามหาลัยอะไร คณะอะไร เลือกไว้หรือยัง”
ถ้าตอบว่ามหาลัยเดียวกับลู่หานจะโดนพ่อด่าหรือเปล่า
“ยังครับ อีกตั้งปีกว่าๆ
พ่ออยากให้ผมเรียนอะไรล่ะ”
“ตามใจแกสิ”
“เอาจริงดิครับ”
“จริง”
“ไม่อยากให้ผมเป็นหมอหรอ
ใครๆก็อยากให้ลูกตัวเองเป็นหมอนะ”
“มันจะเป็นอาชีพของแกทั้งชีวิต
พ่อจะไปเลือกให้ได้ยังไง เลือกเองสิ”
“...”
มาแปลกโคตรๆ.. พึ่งจะเคยคุยกันดีๆกับพ่อหลังจากที่ไม่ได้หยอกเล่นกันตั้งแต่สิบปีที่แล้วได้มั้ง
พอเซฮุนเริ่มโต พ่อก็ขึ้นรับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน
ไม่มีเวลาว่างมาสนใจลูกเท่าไหร่เพราะมีลูกหลานของคนอื่นๆให้ดูแลอีกมากมาย
ด้วยภาระหน้าที่ที่เหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำให้เขาจำต้องเลี้ยงดูเซฮุนด้วยเงิน เอาไว้หาความสุขหรือซื้อสิ่งที่อยากได้
ทดแทนความสุขที่เขาให้ลูกไม่ได้
“พ่อ ไข้ขึ้นป่ะเนี่ย”
พรูด..
กาแฟดำพรูดออกจากปากผู้อำนวยการโรงเรียนรอยอล
“ทำไม พ่อจะนั่งกินข้าวกับลูกไม่ได้เลยหรือไง”
“ผมขนลุกนะครับพ่อ” เด็กหนุ่มลูบแขนตัวเองทำหน้าสยอง
“บ๊ะ เดี๋ยวจับโบกสักที”
“โทษค้าบ”
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะทำให้บรรยากาศยามเช้าในบ้านจากที่เหงาๆดูครื้นเครง
แม่บ้านที่ยืนดูอยู่ไม่ห่างก็กำลังยิ้มอย่างมีความสุขที่พ่อกับลูกกำลังมอบสิ่งดีๆให้กันและกัน
ผู้เป็นพ่ออยากจะลดระยะห่างลง.. ที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่พ่อได้แย่มากเหลือเกิน
“วันนี้ขึ้นรถไปโรงเรียนกับพ่อ ไม่ต้องนั่งรถเมล์”
เชี่ย..
มันน่าตกใจยิ่งกว่าทอร์นาโดเข้าเกาหลีซะอีก..
รถคันหรูจอดในช่องจอดรถของผู้อำนวยการโรงเรียนรอยอล
ตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาในโรงเรียนพอทุกคนเห็นผมนั่งอยู่ข้างพ่อก็มองกันทั้งโรงเรียนเลย
แกรนด์โอเพนนิ่งไปไหน ผมนึกว่าพ่อจะอายซะอีกที่นั่งรถมากับผม แต่เปล่าเลย
พ่อขับรถชิวๆ มีแต่ผมนี่แหละที่นั่งแทบไม่ติดเบาะ
“ไม่อายหรอครับที่มีลูกเป็นอันธพาลแผลเต็มหน้าแบบนี้”
“ก็อย่าทำให้พ่ออายสิ”
“...”
พ่อตบบ่าของผมอย่างผู้ชายคุยกัน
“ที่พ่อไม่อยากให้แกมีเรื่องชกต่อย
ก็เพราะว่าพ่อเป็นห่วง”
“...”
“ไม่ต้องปกป้องโรงเรียนช่วยพ่อหรอก
เกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวพ่อจัดการเอง”
“...”
“เข้าใจพ่อนะเซฮุน”
“ครับ”
ผมตอบรับแล้วเปิดประตูลงจากรถ
บางทีผมก็ควรที่จะเลิกเป็นอันธพาลต่อยตีชาวบ้านไปทั่วได้แล้วล่ะมั้ง..
เช้าวันนี้อากาศดีกว่าทุกวันเลยแฮะ..
.
.
“นี่ เอาเข็มกลัดมาคืนเดี๋ยวนี้”
เสียงหวานจากนางฟ้าคริสเตียนทักเป็นคำแรกเมื่อเจอหน้าผม งุ้งงิ้งจะเอาเข็มกลัดคืนตั้งแต่เจ็บเท้าแล้วครับ
จนแผลหายและเดินได้ปกติแล้วก็ยังไม่เลิกทวงอีก วู้
“มาเอาที่ห้องดิ”
“เข้าห้องนายไม่ต่างอะไรจากเข้าถ้ำเสืออ่ะ”
“ในถ้ำมีแต่ลูกเสือนะ ไม่มีพิษภัยอะไรเลย”
“โห.. กล้าพูดมากเลย”
ผมหัวเราะ ก่อนจะวาดแขนเกี่ยวคอลู่หาน
ผมรู้แล้วล่ะว่ากลิ่นขนมหวานจากลู่หานนั้นมาจากไหน
แก้มขาวๆนี้ไงล่ะ..
ฟอด
ป๊าบ!!!
“โอ๊ย เจ็บบบบบบ!!”
พอจมูกโดนปุ๊บ มือก็ฟาดลงมาปั๊บ หอมเบาๆเองทำไมฟาดมาแรงจังวะ!
ท่าทางนักเลงหัวไม้จะเจอคนที่โหดกว่าซะแล้ว..
.
.
.
ผ่านมาสองอาทิตย์หลังจากที่ผมออกตัวว่าจีบนางฟ้าคริสเตียน
ความเปลี่ยนแปลงน่ะมีแน่นอน
หนึ่งก็คือแผลบนใบหน้าของผมจางหายลงไปหมดแล้ว เหลือแค่รอยแผลเป็นตรงสันดั้งที่ผมยังต้องทายาให้มันจางลง
ระหว่างนี้ก็ติดพลาสเตอร์คาดไปด้วย
ไอ้จงอินกับพวกของผมก็หันมาตั้งใจเรียนกันมากขึ้นเมื่อไม่มีเรื่องอะไรมากวนใจ
แน่นอนว่าข่าวและรูปที่ผมไปเที่ยวกับลู่หานมันว่อนกระจายไปอย่างเร็วมาก
ไม่นานทั้งเด็กรอยอลและเด็กคริสเตียนต่างก็รู้กันทั้งโรงเรียน เด็กรอยอลหลายคนมาแซวผมกันใหญ่
ไม่เว้นแม้แต่ไอ้เชี่ยจงอิน..
“ศัตรูที่รักหรอเพื่อน” มันดูดอมยิ้มไปล้อเลียนผมไประหว่างทางเดินไปร้านเช่าการ์ตูน
“ไม่เสือก”
“ไลน์ที่ชื่อไม่เสือกอ่ะ นางฟ้าคริสเตียนใช่มะ”
“เสือก”
“สัด”
เห็นบล็อกคำหยาบแบบนี้ แต่ผมยิ้มไปคุยกับไอ้จงอินไปนะ
เป็นเอามากแล้วจริงๆกูเนี่ย
เดินเกือบจะถึงร้านเช่าการ์ตูนอยู่แล้ว
จู่ๆก็มีเด็กผู้ชายผูกเนกไทลายสก๊อตสีกรมท่าสองสามคนมายืนขวางหน้าผมกับจงอิน
เด็กคริสเตียน..
“จะสอยนางฟ้าโรงเรียนกู กล้ามากนะมึง!”
หัวโจกตะโกนใส่หน้าผมพร้อมกับถกแขนเสื้อขึ้นท่าทางเอาเรื่อง
“กล้าไม่กล้าก็สอยได้แล้วเว้ย”
“ลู่หานเค้าไม่เอามึงหรอก”
“หน้าอย่างมึงเค้าก็ไม่เอา”
“ปากดีนะมึง”
มันทำท่าจะเข้ามาต่อยผม แต่ผมกลับยืนกอดอกมองหน้ามันนิ่ง
“วันนี้กูไม่อยากมีเรื่อง”
ผัวะ!
หนึ่งหมัดพุ่งเข้าที่สันกรามของผมเต็มๆโดยไม่ทันตั้งตัว ปวดและชาไปทั้งหน้าเลย
ได้กลิ่นคาวเลือดหน่อยๆด้วย ไอ้เด็กคริสเตียนพุ่งเข้ามาหาผมอีกครั้ง
ผมก็เลยเอาเท้ายันมันจนล้มไปกองกับสมุนของมัน
“กูบอกแล้วว่าไม่อยากมีเรื่อง ไป เชี่ยจงอิน”
ผมกับจงอินเดินผ่านพวกมันไปอย่างไม่แยแส
ก่อนจะต้องสะดุดกับคำพูดไล่หลังของมัน
“อ่อนเอ๊ย!!”
“อ่อนแบบเนี้ย! ระวังเด็กโรงเรียนมึงไว้ให้ดี”
.
.
“ระวังนางฟ้าของมึงไว้ด้วย”
.
.
.
.
.
เพียะ!!!
ใบหน้าสวยหันไปตามแรงตบ ก่อนจะครูดตัวลงกับกำแพงข้างโรงเรียนคริสเตียนอย่างหมดแรง
“ลุกขึ้นมา!
นังนางฟ้า”
หญิงสาวที่ผูกเนกไทสีแดงของโรงเรียนรอยอลกระชากคอเสื้อของนางฟ้าปีกหักสะบักสะบอมให้ยืนขึ้นอีกครั้ง
เพื่อนของเธออีกสองคนช่วยกันล็อกแขนทั้งสองข้างของลู่หานให้เธอได้ตบตามใจชอบ
มือเรียวบีบคางของลู่หานพร้อมกับจิกเล็บลงไปบนผิวเนื้อแก้ม
“ร่านมาอ่อยเซฮุนท่าไหน เขาถึงได้เอาแก ห๊ะ!!”
เพียะ!!!
“อึ่ก..”
ไม่มีน้ำตาสักหยดไหลลงมา มีเพียงเลือดที่ค่อยๆไหลซึมลงมาตามมุมปาก
ใบหน้าสวยมีรอยฟกช้ำและรอยนิ้วมือทั้งห้าสีแดงห้อเลือดปะอยู่ที่แก้ม
ยิ่งเป็นคนขาวก็ยิ่งเห็นชัด
เป็นผู้หญิงที่มือหนักเอาการ..
“ฉันจะตบแกจนกว่าจะตอบคำถามฉัน น่าหมั่นไส้นัก สวยนักหรอยะ!!”
“หึ..”
เสียงแค่นหัวเราะจากคนสวยทำให้พวกเธอเหล่านั้นยิ่งดีดดิ้นอย่างกับโดนน้ำกรดสาด
ไม่พูดพร่ำทำเพลงพวกเธอก็เข้ามาจิกหัวแล้วตบซ้ายขวารุมนางฟ้าคริสเตียน
จนกระทั่งร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความชาบนใบหน้า
เลือดไหลซึมลงมาจากมุมปากก่อนจะหยดลงบนพื้นคอนกรีต..
คนพวกนี้.. ตบคืนก็ไม่มีประโยชน์ เจ็บมือเปล่าๆ..
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของลู่หานดังขึ้น
ทำให้พวกเธอที่ยืนนวดข้อมือหันกลับมาจ้องนางฟ้าคริสเตียนอีกครั้ง
ยัยมือตบพุ่งเข้ามาล้วงกระเป๋ากางเกงเอาเครื่องมือสื่อสารออกมาดู
เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่โทรเข้ามาก็ปาโทรศัพท์เข้ากับกำแพงจนหน้าจอแตกและเครื่องดับสนิทไปทันที..
ดวงตากลมสวยเบิกโพลงที่ยัยพวกนี้กล้าทำถึงขนาดนี้.. มันจะมากไปแล้วนะ
ถ้าไม่รับสายเซฮุน เขาจะโกรธมากแล้วก็รีบออกตามหาตัวลู่หานทันที
ไม่อยากให้เขามาเห็นสภาพของลู่หานตอนนี้เลย.. ถึงสาเหตุจะมาจากเขา
แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย
นางฟ้าคริสเตียนค่อยๆยันตัวขึ้นยืน
ใบหน้าฟกช้ำหลายจุดก็จริงแต่มันชาไปหมดแล้ว
ลองกันสักตั้งหน่อยเป็นไง
ยัยพวกเพี้ยน
“ทำฉันน่ะได้ แต่อย่าทำเขานะ..”
เสียงหวานแหบพร่าเอ่ยบอกพร้อมกับตั้งการ์ดเตรียมสู้ พวกเธอกรี๊ดเสียงแสบหูอีกครั้งแล้วพุ่งเข้ามารุมทึ้งกับนางฟ้าคริสเตียนที่ไม่เจียมกะลาหัวว่าอยู่ตัวคนเดียว
คิดจะคบกับอันธพาลอย่างเซฮุนน่ะ.. จะอ่อนแอได้ยังไง
.
.
.
เด็กหนุ่มเดินกระวนกระวายเป็นหนูติดจั่นเมื่อโทรหาลู่หานไม่ติด
ไม่ว่าโทรกี่รอบๆก็พบว่าโทรศัพท์ถูกปิดเครื่องไปแล้ว
“เซฮุน มึงใจเย็นก่อนดิวะ”
“เย็นบ้าอะไร”
เท้าแตะต้นไม้แถวนั้นอย่างระบายอารมณ์เดือดในอก
จงอินรู้ว่าเซฮุนมันกำลังเครียด คำพูดขู่ของไอ้พวกนั้นปั่นประสาทพอตัว
แล้วยิ่งโทรหาลู่หานไม่ติดอีกก็ยิ่งแย่เข้าไปกันใหญ่
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แก้วบาดเท้าลู่หานในวันนั้น
เขาก็กำชับนักหนาว่าให้เปิดโทรศัพท์ไว้ตลอด โทรหาก็ต้องรับสาย
ห้ามตัดสายทิ้งหรือปิดเครื่องหนีโดยเด็ดขาด ครั้งนี้มันแปลก
“จงอิน ไปโรงเรียนคริสเตียนกับกู”
.
.
การบุกถิ่นคริสเตียนเป็นสิ่งที่เซฮุนอยากทำเป็นสิ่งสุดท้ายของชีวิต
แต่วันนี้การที่เขามาเหยียบถึงที่นั้นต้องมีเรื่องหนักหนาพอสมควร
หน้าตาของผมมันดูหาเรื่องมากมั้งคนก็เลยยอมแหวกให้ผมเดินเป็นทาง
เด็กคริสเตียนเนกไทสีกรมท่ามองผมอย่างกับเป็นตัวประหลาด
แต่ผมไม่สนว่าใครจะมองยังไง
ผมแค่อยากมาตามหาลู่หานว่าเขายังปลอดภัยอยู่ที่ไหนสักที่ นี่มันก็พึ่งจะเลิกเรียน
เด็กกิจกรรมอย่างลู่หานคงยังไม่กลับคอนโดแน่ๆ
“แก! มีคนตบกันหลังโรงเรียน”
“เฮ้ยจริง! ใครกับใครอ่ะ”
“ฉันเห็นเด็กรอยอลสามคนรุมตบใครก็ไม่รู้
น่ากลัวมากเลยแก สงสัยจะรุมตบเด็กโรงเรียนเรา สามรุมหนึ่งเลยนะ”
เสียงซุบซิบจากเด็กผู้หญิงผมสั้นทำให้เด็กหนุ่มเลือดร้อนรีบวิ่งพุ่งไปยังหลังโรงเรียนทันที
จงอินสบถคำหยาบออกมาก่อนจะวิ่งตามเพื่อนไปอีกคน แม่งเอ๊ย..
ขอภาวนาให้ไม่ใช่ลู่หานทีเถอะ แค่นี้เพื่อนของเขาก็เส้นประสาทจะระเบิดอยู่แล้ว
คนสองคนจะรักกัน ทำไมมันยากนักวะ..
ผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เหนื่อยหรือไม่เหนื่อยผมไม่รู้สึก
จนกระทั่งเห็นเด็กผู้หญิงใส่กระโปรงสีแดงกำลังจิกหัวใครคนหนึ่งเหวี่ยงลงพื้น
ก่อนที่พวกเธอจะเดินจากไปอีกทาง
ขาของผมวิ่งสลับอย่างอัตโนมัติ และหัวใจของผมแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นว่าคนที่นอนสลบอยู่ตรงหน้าของผมเป็นใคร
“ลู่หาน”
“เชี่ย กล้าทำถึงขนาดนี้ได้ไงวะ!!!”
ไอ้จงอินโวยวายเสียงดัง
ในขณะที่ผมค่อยๆประคองลู่หานขึ้นมาจากพื้นสกปรก..
ยิ่งเห็นร่องรอยต่างๆนาๆบนใบหน้าสวยนั้นผมก็ยิ่งเจ็บ มันเจ็บไปหมดทั้งใจ..
ผมคิดคำพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำเดียว สมองมันว่างเปล่า
คิดอยู่เพียงอย่างเดียวคือลู่หานจะเจ็บแค่ไหนกัน
ขนาดผมแค่เห็นแผลเหล่านี้ยังหัวใจแทบร้าวเลย คนทำยังเป็นมนุษย์อยู่มั้ยวะ
สามรุมหนึ่งนี่ถือว่าหมาหมู่นรกแตกชิบหาย
“ลู่หาน.. ได้ยินเสียงฉันมั้ย”
ผมกระซิบเรียกลู่หานข้างหูของเขา
ก่อนจะโอบกอดร่างเล็กแน่นราวกับส่งผ่านความรู้สึกให้เขารู้ว่าผมหวงแหนเขาแค่ไหน
ผมทะนุถนอมเขาแค่ไหน
ไอ้จงอินมันเดินไปเก็บโทรศัพท์ของลู่หานที่หน้าจอแตกร้าวไม่มีชิ้นดี
มันคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมโทรหาลู่หานไม่ติดสินะ
“เซฮุน..”
“รู้สึกตัวแล้วหรอ
เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ชา..”
เสียงแหบพร่าเอ่ยบอกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่พยายามฝืน
เจ็บขนาดนี้ยังจะมาฝืนยิ้มให้ผมอีก..
“ปากนายไปโดนอะไรมา”
“นางฟ้าบ๊อง..
นายต้องเป็นห่วงตัวเองก่อนสิ”
ผมขมวดคิ้วมองหน้าลู่หานที่ยังคงยิ้มให้ผม..
อย่าทำเป็นเก่งได้มั้ย ถ้าเจ็บก็พูดว่าเจ็บสิ
อยากร้องไห้ก็ร้องไห้ออกมาเลยไม่ต้องอายใครทั้งนั้น
ผมจ้องหน้าลู่หานอยู่อย่างนั้นจนนางฟ้าคริสเตียนค่อยๆหุบยิ้มลงพร้อมกับร้องไห้ออกมา..
ผมกดหัวของลู่หานให้ซุกไหล่ของผม
เขากอดผมแน่นแล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาเรื่อยๆ คงจะอดกลั้นไว้นานพอสมควร
เจ็บขนาดนี้ต่อให้เป็นคนเข้มแข็งแค่ไหนก็เถอะ คนเรามันต้องมีช่วงเวลาที่อ่อนแอกันบ้าง..
ลู่หานคงไม่อยากให้ผมรู้สึกแย่ ผมรู้
แค่เห็นเด็กรอยอลมารุมตบลู่หาน ผมก็รู้แล้วล่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น สาเหตุมันคงเป็นเพราะผม
แค่เห็นเด็กรอยอลมารุมตบลู่หาน ผมก็รู้แล้วล่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น สาเหตุมันคงเป็นเพราะผม
“เดี๋ยวกูเรียกแท็กซี่ให้
มึงจะได้พานางฟ้าไปพักผ่อน”
“ขอบใจว่ะจงอิน”
มันวิ่งไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าโรงเรียน
ระหว่างนี้ผมก็ค่อยๆประคองลู่หานให้ลุกขึ้นยืน
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่โอเคเท่าไหร่ผมก็เลยช้อนตัวลู่หานอุ้มซะเลย
นางฟ้ายังคงเอาหน้าซุกอกผมงุด
สงสัยน้ำตาไม่ยอมหยุดไหล ผมเข้าใจนะว่าบางทีคนเราอ่อนแอ พอมีคนปลอบ มีคนห่วงใย
มันยิ่งทำให้ร้องไห้หนักเข้าไปอีก ลู่หานก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละมั้ง..
มันทำให้ผมรู้ว่าเวลานี้เขากำลังอ่อนแอมากแค่ไหน..
ไม่นานแท็กซี่ก็มาจอดข้างฟุตบาท
ผมพาลู่หานขึ้นรถโดยเร็ว รถออกวิ่งไปบนถนนด้วยคำสั่งให้รีบของผม
เมื่อมาถึงคอนโดของลู่หานผมก็พาเขาขึ้นมาบนห้องทันที
นางฟ้าคริสเตียนหยุดร้องไห้แล้วผมค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย
ลู่หานก็เป็นแบบนี้แหละ เห็นหน้าสวยๆอย่างนี้แต่เข้มแข็งมากนะ อย่างนี้ถึงจะเหมาะกับนักเลงหัวไม้อย่างผมหน่อย
“นางฟ้าตกสวรรค์หรือเปล่าเนี่ย
ตกแรงไปนะ หน้าช้ำเลย”
“ไอ้บ้า”
ผมนั่งทำแผลให้ลู่หานอยู่บนเตียง
พอเช็ดเลือด เช็ดคราบสกปรก ทำแผลให้ดูดี นางฟ้าของผมก็กลับมาสวยเหมือนเดิม
ถึงแม้ว่าจะมีรอยพวกนี้ประดับอยู่บนใบหน้าบ้างแต่ก็ไม่ทำให้ความสวยลดน้อยลงแต่อย่างใด
“หายเจ็บหรือยัง”
“ก็บอกแล้วไงว่าชา”
“พูดจริง”
“จริง”
“เฮ้ย คนเหล็กป่ะเนี่ย”
“จะบ้าหรอ
นายทำแผลให้ขนาดนี้สองสามวันก็หายแล้วแหละ”
“แล้วนี่ยัยพวกนั้นมัน..”
“ไม่เป็นไรหรอก มันไม่ใช่ความผิดของนาย”
“...”
“อย่าคิดมากเลยน่า.. ฉันไม่เป็นไร”
ลู่หานบอกให้ผมสบายใจ
แต่พอหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่เละเป็นเศษเหล็กก็ทำหน้าเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
“ดวงซวยอะไรขนาดนี้เนี่ย..”
“ไม่ต้องไปซ่อมมันแล้ว ทิ้งไป”
“แล้วจะเอาอะไรใช้”
“เดี๋ยวพาไปซื้อใหม่”
“บ้านนายรวยมาจากไหน
ไม่ใช่เครื่องละห้าบาทนะ”
“รวยไม่รวยพ่อก็เป็นผอ.โรงเรียนรอยอลอ่ะ”
“เฮ้ย.. พูดจริง”
“จริง”
ลู่หานเอ๋อแดกไปเรียบร้อย คงคิดไม่ถึงว่าเด็กอันธพาลอย่างผมจะมีพ่อเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน
ผมมองหน้าตาเอ๋อๆของลู่หานขำๆ อะไรจะอึ้งขนาดน้าน
ผมดีดนิ้วตรงหน้าของเขาเป๊าะหนึ่งเรียกสติ
“นี่ ตกใจขนาดนั้นเลย”
“ไม่ได้อำใช่ป่ะ”
“ไม่อำ ฉันไม่ใช่ผีนะ”
“แล้วเป็นถึงลูกผอ. ทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้ล่ะเนี่ย”
นิ้วชี้เล็กๆจิ้มลงบนแผลตรงมุมปากของผม ร้องซี้ดเลย
“ฉันไม่ได้ต่อยใครเพราะความคึกคะนองหรอก
พวกมันมาป่วนโรงเรียนก่อนทั้งนั้น”
“ปกป้องโรงเรียนช่วยพ่อ ว่างั้น”
“ก็ใช่..”
“นายก็มีมุมเท่เหมือนกันนะเนี่ย”
“ให้รางวัลคนเท่หน่อยดิ เร็ว”
ผมยักคิ้วข้างเดียวใส่นางฟ้าคริสเตียน
และโดยไม่ทันตั้งตัว
มือเล็กๆนั้นก็ดึงคอเสื้อของผมจนริมฝีปากของผมตรงไปทาบทับริมฝีปากของเขา
ลู่หานขยับปากจุ๊บผมจนได้ยินเสียงจุ๊บก่อนจะผละออกไปแต่ก็ไม่ทันคนมือไวอย่างผม
สองมือแกร่งจับใบหน้าสวยแล้วมอบจูบจริงๆให้กับนางฟ้าคริสเตียนคนสวย..
หลงเสน่ห์นางฟ้าคริสเตียนจนหัวปักหัวปำซะแล้ว
ไอ้เซฮุน..
.
.
.
.
.
ผมไม่คิดว่าคำขู่ของไอ้เด็กคริสเตียนคนนั้นมันจะเป็นเรื่องจริง
จนกระทั่งมีเด็กวิ่งมาฟ้องผมเกือบสิบคนแล้วว่าโดนรุมกระทืบ ไถตังค์ แล้วก็ขโมยของ
พอผมนิ่งไม่ไปจัดการด้วยตัวเองก็ไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับเรื่องอันธพาลเลือดตกยางออกอีก
นั่นยิ่งทำให้สถานการณ์มันซ้ำร้ายยิ่งกว่าเดิม
เรื่องแบบนี้จะไปฟ้องอาจารย์ฝ่ายปกครองเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะอยู่ต่างโรงเรียนกัน
สอนแต่ให้เด็กรอยอลรู้จักหลบหลีกป้องกันตัวอยู่ได้ คนมันเลวยังไงมันก็เลว
ตั้งรับดีแค่ไหนมันก็หาเรื่องเอาจนได้
ยิ่งกับลู่หานนี่ผมแทบอยากจับขังให้อยู่ในคอนโดเฉยๆไม่ต้องออกไปโรงเรียน
แต่ด้วยหน้าที่ของเด็กกิจกรรมผมก็เลยต้องจำยอมปล่อย
แผลบนหน้ายังไม่หายดีเท่าไหร่เลย
“พี่เซฮุนครับ ช่วยผมด้วย ฮึก..
ผมโดนไถตังค์สองวันติดแล้ว เงินเก็บของผมก็โดนพวกมันเอาไปหมดแล้ว ฮือ..”
เด็กคยองซูวิ่งมาหาผมตอนเลิกเรียน
ให้ทายว่าเป็นคนที่เท่าไหร่ของวัน
ยี่สิบเอ็ด..
ผมรับปากกับลู่หานและพ่อแล้วว่าจะไม่ไปหาเรื่องชกต่อยกับใครอีก
แต่ผมก็ไม่เห็นว่าการอยู่นิ่งเฉยมันจะทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย
“ลองแจ้งตำรวจดูมั้ย”
ผมพยายามหาทางออก
“ยิ่งไม่ได้เลยครับ
ถ้าพวกมันรู้ว่าผมไปแจ้งตำรวจ ผมโดนเล่นงานหนักกว่าเดิมแน่ๆ
คงไม่ใช่แค่ไถตังค์อย่างเดียวแล้ว พี่เซฮุน ช่วยพวกเราหน่อยเถอะนะครับ!”
“กูก็อยากช่วยอ่ะนะ แต่..”
“ไอ้เซฮุน!! เกิดเรื่องใหญ่แล้วว่ะ!!!”
ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะมองหน้าตื่นๆของไอ้จงอิน
ดูเหมือนว่ามันจะรีบวิ่งมาพอสมควร
แต่ยังไม่ทันที่มันจะบอกอะไร
เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นขัดจังหวะ ผมหยิบมันออกมาดูก็พบว่าเป็นลู่หานที่โทรมา
ลู่หานไม่ยอมให้ผมซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้เขา
ผมก็เลยเอาไอโฟนห้าเครื่องเก่าให้เขาใช้ไปก่อน
“ฮัลโหล ว่าไง”
“...”
ไม่มีเสียงคนพูดอะไรออกมา
ผมก็เลยฮัลโหลซ้ำไปอีกครั้ง จนกระทั่งได้ยินเหมือนเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าลอดผ่านปลายสาย
เพียะ!!
“อ๊ะ..”
“พูดให้มันได้ยินสิ ว่าแกอยู่ที่ไหน
แล้วก็กำลังโดนอะไรอยู่”
เสียงของผู้ชายพูดขู่ทำให้ผมกัดฟันกรอด
ผมหันไปถามจงอินเสียงเครียด
“เกิดอะไรขึ้นกับลู่หาน”
“ลู่หานถูกเด็กคริสเตียนจับตัวไปเพื่อเรียกมึงให้ออกไปเจอกับพวกมัน”
เชี่ย.. สวะสังคมจริงๆ
“ลู่หาน! นายอยู่ที่ไหนน่ะ พูดสิ บอกฉันมา!!!”
“นายไม่ต้องมา.. มันหลอกนาย”
เพียะ!!
“อึ่ก..”
“อย่าทำอะไรลู่หานนะเว้ย!! ถ้าทำอีกแม้แต่ครั้งเดียว ฉันไม่ไว้ชีวิตพวกแกแน่!!”
“ไอ้ฮุนกูว่ารีบไปเหอะ ปล่อยไว้อย่างนี้เดี๋ยวมันก็ทำร้ายลู่หานขู่มึงอีก
เดี๋ยวกูโทรเรียกพวกให้”
จงอินบอกก่อนจะควักโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาพรรคพวกมือฉกาจ
ผมโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ทำไมต้องทำกับลู่หานด้วย มันมีเรื่องกับผม
ทำไมไม่ทำแค่กับผมวะ ทำลู่หานทำไม!
“บอกที่ตายของมึงมา
เดี๋ยวกูไปจัดการมึงให้ถึงที่เลย”
“เซฮุน! นายไม่ต้องมานะ มันเป็นกับดัก อื้อ..”
“ปากดีนักนะพวกมึง”
.
.
“โกดังร้าง ที่เดิม”
.
.
.
.
นางฟ้าคริสเตียนถูกมัดไว้กับเก้าอี้ผูกติดเสา
ใบหน้าได้รอยฟกช้ำเพิ่มมาอีกสองแผล..
“เดี๋ยวมันก็มาแล้ว สนุกแน่คราวนี้”
“หมั่นไส้แม่งมานานละ! นึกว่าจะเจ๋ง ที่ไหนได้ก็มาแพ้ให้กับนางฟ้าคริสเตียน”
“นี่.. นางฟ้า”
เด็กหนุ่มนักเลงคนหนึ่งหันมาคุยกับลู่หาน
จับคางมนให้เงยหน้าขึ้นมาคุยกันแต่นางฟ้าก็สะบัดหน้าหนีราวกับรังเกียจสัมผัส
ลู่หานเห็นพวกของมันมีเกือบร้อยคน..
แต่ไปซ่อนอยู่ข้างหลังโกดังนั่น ถ้าเซฮุนมาเมื่อไหร่..
เขาคงโดนรุมจากคนเกือบร้อยคนเป็นแน่
ถึงได้บอกว่ามันเป็นกับดักไงล่ะ..
คนโง่
“รู้มั้ยว่าทำไมนักสู้ถึงเป็นคนไร้หัวใจ..”
“ก็เพราะถ้ามีหัวใจเมื่อไหร่.. มันก็จะเป็นจุดอ่อนทันทีไงล่ะ”
TBC.
#ฮุนเตอร์บอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น