วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558

Cherry boy story : เปลี่ยนเทยให้เถื่อน #1


Cherry boy story : เปลี่ยนเทยให้เถื่อน

chapter :1



            “อีลู่! เดินเร็วๆสิยะ กระมิดกระเมี้ยนอยู่นั่นแหละ”
            “เดี๋ยวกระโปรงกูเปิดอีดอก”
            “เสือกใส่สั้นมาทำไมล่ะ ขาเล็กนิดขาเล็กหน่อยทำมาใส่สั้น อ่อย!
            “มึงไม่สั้นเลยเนอะอีแบค ใส่ขาสั้นรัดติ้วจนไข่จะระเบิดอยู่แล้ว”
            “ปากคอเราะร้ายขึ้นนะยะหล่อน อีตุ๊ดแบ๊ว”
            นิ้วชี้เรียวยาวที่ทาเล็บสีชมพูชอกกิ้งพิงค์จิ้มหน้าผากเพื่อนสปีชี่ส์เดียวกันจนแทบหงายหลัง แหมออกไปเที่ยวก็ต้องสวยๆหน่อยสิยะ ร่างเล็กบอบบางน่าทะนุถนอมในชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่องเดินเอื่อยเฉื่อยเข้าไปในหอพักนักศึกษาชาย ฟังไม่ผิดหรอก.. นักศึกษาชาย เหล่าชายฉกรรจ์ต่างมองทั้งคู่จนคอแทบเคล็ด ไม่ใช่เพราะตกตะลึงในความสวยแต่อย่างใด ออกไปทางสะพรึงเสียมากกว่า..

            ทั้งสองสาว(?)ก้าวขึ้นบันไดหอพักพร้อมกับพูดคุยกันไปด้วย ”พรุ่งนี้ก็เปิดเทอมแล้ว ไปลาออกตอนนี้ทันมั้ยวะแบค มีแววตายหยั่งเขียดลางๆ..”
            “อย่าป๊อดสิคะอีลู่ มาถึงขนาดนี้แล้ว แล้วก็อย่ามาบ่นนะยะ มึงเป็นคนเลือกเอนท์วิศวะตามเขามาเองนะอย่าลืม” เสียงแหลมเล็กที่พยายามดัดให้แบ๊วที่สุดเอ่ยเตือนสติ
            “รู้แล้วน่า กูแค่กลัวหลุด”
            “แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเขาไม่ชอบตุ๊ด”
            “ไม่ใช่ไม่ชอบธรรมดาค่ะ เกลียดตุ๊ด! เจอตุ๊ดทีไล่ถีบเลยอ่ะ มึงก็ระวังไว้เหอะ”
            พูดไปก็ดึงกิ๊บโบว์สีชมพูอันเล็กๆน่ารักออกมาแล้วติดเข้าไปใหม่ ปากล่างยื่นออกมาเล็กน้อยเมื่อพูดถึงความโหดเถื่อนของเขาคนนั้น..
            เกิดมาสิบเก้าปีเป็นผู้ชายอยู่แค่สิบปีนอกนั้นก็เป็นตุ๊ด เติบโตขึ้นมาเป็นสาวสวยสะพรั่งได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะใจรักล้วนๆ ลู่หานไขประตูห้องของตัวเองแล้วเปิดเข้าไป ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ตุ๊กตา ผ้าเช็ดตัวยันพรมเช็ดเท้าล้วนเป็นลายคิตตี้สีชมพู..
            “หือ.. อีตุ๊ดคิตตี้” แบคฮยอนพูดแขวะ
            “กูรักของกู”
            “กูนึกว่ากูอยู่ซานริโอ้แลนด์ค่ะ”
            ทันทีที่แบคเข้ามาในห้องของลู่หานก็กระโดดขึ้นเตียงคิตตี้แล้วเอาหน้าซุกฟัดหมอนฟัดผ้าห่มไปมา ลู่หานหัวเราะที่เห็นเพื่อนสนิททำท่าทางไม่ห่วงสวยใดๆทั้งสิ้น
            “เตียงมึงหอมอ่ะอีลู่ กูชอบ”
            “เตียงห้องมึงมีแต่กลิ่นน้ำลายบูด ซักบ้างนะคะ”
            “อีดอกหอกหอย”
            คำด่าที่ผุดขึ้นมาใหม่ทุกวันออกจากปากกระจับเล็กๆสีชมพูของแบคฮยอน ลู่หานหัวเราะแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใส่สำหรับอยู่หอ เสื้อยืดสีขาวบางๆกับกางเกงบอล.. มันใส่สบายดีออกนะ

            “อื้อหือ.. แมนเชียวค่ะพี่ลู่หาน” เสียงแหลมๆนั้นเอ่ยแขวะอีกครั้งเมื่อร่างเล็กเดินออกมาจากห้องน้ำ
            “จีบกูมั้ยครับ” พยายามทำเสียงเข้ม
            “ไม่นิยมสปีชีส์เดียวกันค่ะ บ้าย”
            ปากเล็กเบะคว่ำใส่ตุ๊ดเผือกที่นอนม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มคิตตี้ ลู่หานเดินตามมานั่งบนเตียงก่อนจะหยิบกระจกสีชมพูขนมิงค์ขึ้นมาส่อง
            “กูจะแอ๊บแมนไปได้ซักกี่น้ำวะ..”
            “มึงฟังกูนะลู่”
            “หืม?”
            แบคกระเด้งตัวขึ้นจากจากนอนคว่ำ นั่งกอดหมอนคิตตี้จ้องหน้าเพื่อนรัก เห็นอีลู่มันทำหน้าเครียดทั้งวัน มันคงคิดมากและหนักใจอยู่พอสมควร

            “มึงเป็นตุ๊ดที่ธรรมชาติที่สุดแล้วเท่าที่กูเจอมา เสียงก็หวานไม่ต้องดัดแบบกู หน้าก็สวยแบ๊วแบบผู้หญิง มึงเกิดมาผิดเพศอ่ะเอาง่ายๆ กูดีใจนะที่เห็นมึงโตเป็นสาว”
            “อีเหี้ย..”
            “เพราะฉะนั้นมึงไม่ต้องแอ๊บอะไรมาก คือตัวมึงเป็นอย่างนี้อยู่แล้วอ่ะเข้าใจป่ะ ตอนมึงแต่งตัวเป็นผู้ชายก็เหมือนผู้ชายปวกเปียกแรงน้อย ติ๋มๆหน้าอ้อยๆ แค่อย่าหลุดกรี๊ดวี้ดว้ายก็พอ ระวังโดนเขาคนนั้นของมึงกระโดดถีบกูไม่รู้ด้วยนะคะ”
            ตากลมสวยละจากภาพในกระจกแล้วมองหน้าอีตุ๊ดแรดที่กระพริบตาปริบๆจนขนตาปลอมจะปลิว มือบางวางกระจกขนมิ้งค์ลง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

            “เป็นตุ๊ดก็ใช่ว่าจะรักใครไม่ได้นะเว้ยอีลู่ มึงไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย มึงแค่ทำตามหัวใจของมึง”
            แบคลูบบ่าเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งคิดอะไรวุ่นวายอยู่ในหัว ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงกิ๊บโบว์สีชมพูบนหัวของมันออกเพราะมันช่างไม่เข้ากับชุดแมนๆที่มันใส่อยู่ในตอนนี้เอาซะเลย
           
            “เอาก็เอาวะ! เกิดมาได้ผู้ชายเป็นผัวซักครั้งจะได้ไม่เสียชาติเกิดตุ๊ด!





            วันเปิดเทอม
            ร่างเล็กถูกยันลงมาจากรถยนต์คันสีขาวของแบคฮยอน เพราะเจ้าตัวนั้นดันดื้อและป๊อดขึ้นมาซะอย่างนั้นเมื่อเห็นป้ายคณะของตัวเอง

            “อีลู่! ไหนเมื่อวานฮึดสู้ซะดิบดี ทำไมมาป๊อดเอาตอนอยู่หน้าคณะวิศวะแล้วยะ!” แบคลดกระจกรถลงก่อนจะดุอีเพื่อนตุ๊ดแบ๊วที่ยืนทำหน้าจะร้องไห้อยู่ข้างๆรถ
            “มึงย้ายมาเรียนคณะเดียวกันกับกูไม่ได้หรอแบค กูต้องการเพื่อน”
            “โนจ่ะ ถึงผู้ชายคณะนี้จะแซ่บแต่ถ้าให้กูเรียนคำนวณทั้งวันกูยอมเอาจีสตริงรัดคอตัวเองตายดีกว่า”
            “แบค..”
            “ไม่ต้องมาทำอ้อนเสียงหวาน กรี๊ดอีลู่อย่ายืนพ้อยท์เท้าแบบนั้นนะ! แมนๆหน่อยสิยะ”
            “เหี้ยหลุด” ดึงเท้าตัวเองกลับมายืนตรงแหน่วอีกครั้ง “เห็นป่ะว่ายังไม่ทันไรกูก็หลุดแล้วอ่ะ กูจะไหวหรอวะ” พูดถามเสียงหงอย ใบหน้างองุ้ม
            “มึงเป็นใคร”
            “อีลู่ตุ๊ดแบ๊วเพื่อนมึงไง”
            “แล้วคนที่มึงชอบอยู่ที่ไหน”
            นิ้วชี้เข้าไปในคณะวิศวะ..
            “เออ! มึงต้องเข้าไปล่าผัวค่ะอีตุ๊ดแบ๊ว! ลุย!

            บรื้น..

            รถแบคขับออกไปนู่นแล้ว.. ทิ้งให้ตุ๊ดแบ๊วในชุดนักศึกษาแอ๊บแมนยืนเอ๋ออยู่คนเดียวที่หน้าคณะของตัวเอง
มองเข้าไปข้างในคณะก็เจอแต่ผู้ชายหล่อๆทั้งนั้น..
ผิดๆ
เจอแต่เหล่าชายฉกรรจ์ใส่เสื้อช็อปเดินกันให้ควั่ก มันคงจะดีไม่น้อยถ้าแค่เข้าไปเดินเล่นส่องผู้ชายหล่อแล้วก็กลับ แต่นี่ลู่หานต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับคนพวกนั้นตั้งสี่ปีเต็ม
เขาคนนั้นชอบอะไรที่แมนๆดิบเถื่อน มันเหมาะกับเขาดี แต่ดูลู่หานตุ๊ดน้อยบอบบางคนนี้สิ.. เด็กวิศวะภาคคิตตี้ซะขนาดนี้..
คำว่าจะไหวหรอ จะรอดหรอมันวนเวียนไปมาอยู่ในหัว

“นาย หลงตึกเรียนหรอ” แรงสะกิดบนไหล่พร้อมกับเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามจากด้านข้าง ลู่หานหันไปมองหน้าคนที่มาทักช้าๆ

อกอีแป้น! หล่อจังเลยค่า! *-*
กรี๊ดดด มีผู้ชายมาทักแถมยังหล่อด้วย จิกมือจิกเท้าแน่นไปหมดแล้ว

“คือ.. เราไม่รู้ว่าตึกเรียนคาบเช้ามันอยู่ตรงไหนอ่ะ” พยายามขุดเลือดความเป็นพี่หานขึ้นมาสูบฉีด จะหลุดแรดตอนเจอผู้ชายหล่อไม่ได้! อี๊ดดดด(กรี๊ดในใจ)

“นายเรียนตึกไหนล่ะ เดี๋ยวไปส่ง”
“ตึกA
“อ๋อ ตามมาสิ เดี๋ยวไปส่ง”
            เขาส่งยิ้มมาให้แล้วเดินนำออกไปก่อนแล้ว มือเล็กยกขึ้นปิดปากกลั้นกรี๊ดเอาไว้ไม่ให้หลุด เดินดุ๊กๆตามหลังผู้ชายคนนั้นไป เขาตัวสูง ไหล่ก็กว้าง อยู่ในชุดนักศึกษาแล้วดูดีมากๆเหมือนนายแบบเลย..

            ลู่หานล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาส่งไลน์หาเพื่อนรัก
            Lukitty : อีแบค! กูพร้อมไฝว้แล้วค่าาา


            “เป็นไร ทำหน้าเหมือนกำลังดูนมตูมๆของสาวแม็กซิมในโทรศัพท์” เขาคนนั้นหันหลังกลับมาแล้วเดินให้ช้าลงเพื่อที่เราจะได้เดินไปพร้อมๆกัน เจนเทิลแมนจังเลย..
            “จะบ้าหรอยะ.. เอ๊ย! จะบ้าหรอวะ ใครจะมาดูนมในที่โล่งแจ้งแบบนี้” ดูเป้าผู้ชายก็ว่าไปอย่าง..
            “ถ้างั้นนายก็ชอบดูในห้องมืดๆคนเดียวล่ะสิ”
            “บ้า ไปกันใหญ่แล้ว หน้าเราหื่นหรือไง”
            “นี่ไม่รู้ตัวเลยหรอ”
            “เราไม่ได้หื่นนะเว้ย!
            พยายามทำเสียงให้ทุ้มห้าวที่สุดแต่มันก็ยังเหมือนแมวขู่อยู่ดี.. ตุ๊ดจะทำไงดี ถ้าเขาจับได้ล่ะว่าเป็นตุ๊ดแอ๊บแมนเข้ามามีหวังโดนล้อแน่ๆเลย..

            “เราล้อเล่นน่า.. เห็นหน้าติ๋มๆนี่ดุเหมือนกันนะเนี่ย เออแล้วนายเรียนภาคไหนวะ”
            “วิศวะปิโตร”
            “เมพว่ะ เราเรียนโยธานะ”
            “นายอยู่ปีหนึ่งใช่มั้ย ทำไมถึงได้รู้ทางในคณะได้ล่ะ วันนี้พึ่งเปิดเทอมวันแรกเอง..”
            “เรามาส่งพี่สาวบ่อยน่ะ พี่สาวเราเรียนวิศวะที่นี่แหละ อยู่ปีสี่แล้ว”
            “ครอบครัววิศวะนี่นา”
            “ไม่ขนาดนั้นหรอก เราอยากเข้าเองแหละ แม่งเท่ดี เออแล้วทำไมนายถึงอยากเข้ามาเรียนวิศวะล่ะ?”
            มาตามล่าผู้ชายที่ชอบค่ะ..
            “เอ่อ.. มันแมนๆไง แมน.. เหมือนเรา”
            “ห๊ะ?”
            “ก็วิศวะแม่งเท่ๆแมนๆแบบผู้ชายไง เราเป็นผู้ชายก็ต้องเรียนวิศวะดิ”
            “อ๋อ ตัวเล็กแต่ใจใหญ่สินะ”
            “...” มันกำลังด่ากูว่าเตี้ยเปล่าวะ เค้าเรียกตัวเล็กน่าทะนุถนอมย่ะ
            “หยอกเล่นน่า นายชื่ออะไร?” เขาคนนั้นถามชื่อแล้วหยุดเดินเมื่อมาถึงหน้าตึกๆหนึ่ง ลู่หานเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นตัวอักษรสีแดง ‘A’ เขียนอยู่หน้าตึกอันเบ้อเร่อ ที่นี่เขาน่าจะเขียนชื่อตึกไว้ทุกตึกแบบนี้เพราะคณะนี้ใหญ่มากและมีตึกหลายตึกสับสนไปหมด

            “เราชื่อลู่หาน นายล่ะ”
            “จงอิน เราไปละนะ ตั้งใจเรียนล่ะ”
            “อื้อ นายก็เหมือนกันนะ”
            ผู้ชายที่ชื่อจงอินยิ้มให้แล้วเดินออกไปนู่นแล้ว เขาคงไปเข้าห้องเรียนของเขาเพราะมันใกล้เวลาจะเริ่มคลาสแล้ว ลู่หานมองตามหุ่นนายแบบนั้นไปพร้อมกับยกสองมือขึ้นมากัดไปมา ตากลมใสประกายวิบวับ
            “แม่ง.. งานดีอ่ะ”

            “ฮึ้ย.. มัวแต่มองผู้ชาย รีบขึ้นไปเรียนดีกว่า”
            สองมือกำสายกระเป๋าแบบสาวญี่ปุ่นคาวาอี้แล้ววิ่งสลับเท้าเข้าไปในตึก วันนี้อุตส่าห์สะพายกระเป๋าเป้สีดำที่พึ่งไปถอยมาใหม่เมื่อวานกับอีแบคเพื่อลงทุนแอ๊บแมนเต็มตัว ชุดนักศึกษาผูกไทเรียบร้อยดูแมนสุดๆ หากแต่หน้าตาและท่าทางกลับไม่ค่อยจะให้เท่าไหร่..
            ก็แหม เป็นตุ๊ดมาตั้งหลายปี จะให้กลับมาเดินกร่างถ่างขามันจะไปทำภายในหนึ่งวันได้ยังไง..

            มือบางเลื่อนเปิดประตูเข้าไปด้านในห้องเรียน เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังทักทายลู่หานเป็นอันดับแรก ทุกคนในห้องล้วนเป็นผู้ชาย.. ผู้ชาย.. และผู้ชายเต็มไปหมด!
โอ๊ะ มีผู้หญิงอยู่หนึ่ง.. สอง.. สาม..
สามคน!!!!
ถ้าลู่หานจำไม่ผิดภาคปิโตรมีคนเข้าเรียนเกือบเจ็ดสิบคนนี่นา ถึงจะรู้ว่าคณะวิศวะผู้หญิงเข้าเรียนน้อยก็เถอะแต่ก็ไม่คิดว่าจะน้อยถึงขนาดนี้ ทำไมปริมาณประชากรมันถึงไม่สมดุลแบบนี้ล่ะ..

ร่างบอบบางเดินตัวลีบเข้าไปด้านใน นั่งลงที่นั่งเกือบหน้าสุดเพราะที่นั่งหลังๆมันเต็มหมดแล้ว ปกติห้องเรียนมันต้องแย่งกันนั่งหน้าไม่ใช่หรอ ตุ๊ดงง..

“นายมาใหม่อ่ะ! ออกไปแนะนำตัวหน้าห้องดิ”
ลู่หานสะดุ้งสุดตัวแล้วมองคนที่ตะโกนสั่ง เขาเหมือนเป็นหัวหน้าเซคแล้วมีลูกกระจ๊อกอยู่รายล้อมตัว
เพื่อนผู้หญิงที่นั่งถัดจากลู่หานโน้มหน้าเข้ามากระซิบ “ทุกคนโดนเหมือนกันหมด นายออกไปเร็ว”

คนแมนจำเป็นกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะปลดสายกระเป๋าออกจากบ่าแล้วเดินตัวลีบหนีบไข่ออกไปยืนหน้าห้อง ทุกสายตาจับจ้องมาที่เพื่อนใหม่ที่กำลังสติแตกด้วยความตื่นเต้นเข้าไปทุกที..
กูต้องแอ๊บแมน.. กูต้องแอ๊บแมน.. กูต้องแม..
“เฮ้ย! เป็นตุ๊ดอ่อวะ! ยืนให้มันแมนๆหน่อยเด่ะ!!
อุ๊ยชะนีแหก!! (กุมอกในใจ)

คำพูดจี้จุดที่กังวลอยู่ในใจทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกตัวโยน

เวลายืนน่ะพยายามยืนกร่างๆเข้าไว้ หน้าเชิดขึ้นเล็กน้อย แบบพี่โดมตอนถ่ายแบบอ่ะค่ะ
เสียงอีแบคที่พูดสอนเมื่อคืนนี้ดังเข้ามาในหัว.. เอาวะ ตุ๊ดต้องรอด ตุ๊ดต้องทำเพื่อความอยู่รอด
ทั้งสองขาค่อยๆแยกออกจากกันพอประมาณ เปิดปลายเท้า และเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแบบมั่นใจ

ตอนพูดน่ะพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ อย่างุงิ เข้าใจมั้ยอีลู่!’

“สวัสดีครับ ผมชื่อลู่หาน รหัส77 ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนนะครับ”

ทุกสายตาจ้องมองมาด้วยความอึ้ง จากท่าทางตอนแรกที่ดูติ๋มๆยืนหนีบไข่ ตอนนี้กลับดูสมชายชาตรีวิศวะขึ้นมาเป็นกอง
ดวงตากลมมองกวาดไปรอบๆห้องเรียน.. การที่ได้ยืนอยู่หน้าห้องทำให้เห็นหน้าของทุกคนชัดๆ หลายคนถามลู่หานว่าทำไมถึงอยากเข้าเรียนคณะนี้บ้างล่ะ ทำไมถึงอยากเรียนภาคนี้บ้างล่ะ..
ก็เพราะเขาคนนั้นเรียนคณะนี้ภาคนี้ไง..
เขาคือคำตอบทุกอย่างของลู่หานรวมถึงการมายืนกร่างแอ๊บแมนอยู่ตรงนี้ของตุ๊ดแบ๊วค่ะ!
มองไปทั่วทั้งห้องแล้วก็ยังไม่เห็นเขาคนนั้นเลยแฮะ.. หรือว่าเขาจะยังไม่มานะ..

“มึงยืนทำเหี้ยไรอยู่ตรงนั้นวะ พูดเสร็จก็เข้ามาดิ้ รอคนจุดธูปเชิญมึงเข้ามานั่งหรอ”
อีผู้ชายใจระกำ!
“ไอ้สัด”
สบถออกมาเบาๆด้วยเลือดพี่หานสูบฉีดในร่างเต็มร้อย หัวหน้าเซคหัวเราะฮ่าๆทั้งที่โดนด่า มึงบ้าหรือไม่เต็มบาทคะ

“มึงแม่ง หน้าตาก็ออกจะติ๋มๆ ที่แท้ก็เสือซ่อนเล็บ” ไม่ต้องซ่อนจ้าเมื่อวานล้างเล็บออกหมดแล้ว สีสวยมากอยากจะบอกแต่ก็ต้องล้างออกเพราะต้องมาแอ๊บแมนให้พวกมึงดูไง
“กูก็เป็นกูนี่แหละ”

เสียงไอ้พวกนั้นหัวเราะร่วนอีกครั้ง กวนตีนมากเดี๋ยวเอาดินสอคิตตี้จิ้มตาเรียงตัวเลย ร่างบอบบางเดินเขย่งแปลกๆกลับเข้ามานั่งที่
ด้วยความที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรกทำให้เราทุกคนพูดคุยถามไถ่ชื่อเสียงดังจ้อกแจ้กไปทั่วทั้งห้อง เมื่อมีคนเข้ามาใหม่ก็สั่งให้ออกไปแนะนำตัวหน้าห้องเหมือนที่ลู่หานทำ ทุกครั้งที่มีคนเปิดประตูเข้ามาลู่หานต้องชะเง้อมองว่าใช่เขาคนนั้นไหม.. แต่ก็ต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า

ครืด!
เสียงเปิดประตูรุนแรงนั้นถึงกับทำให้เสียงพูดคุยหยุดลงแล้วมองไปยังผู้มาใหม่ ลู่หานเงยหน้าขึ้นจากการก้มเก็บดินสอคิตตี้ยัดเข้ากระเป๋าเดี๋ยวคนอื่นเห็นก่อนจะงงกับบรรยากาศเงียบฉี่.. มองซ้ายขวาก็พบว่าทุกคนมองไปยังหน้าประตูเป็นตาเดียว
อุ้ยแหก!!
เขาคนนั้นของลู่หานมาแล้ว..
หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักถี่รัวเมื่อเห็นคิ้วเข้มพาดเฉียงขมวดเป็นปมเท่บาดใจ จมูกโด่งเป็นสันเขื่อนรับกับริมฝีปากบางๆของเขา ผมด้านหน้าเซ็ตตั้งขึ้น เสื้อนักศึกษาปล่อยลอยชายพับแขน..
ตุ๊ดละลายแพร้บ..

หล่อระเบิดระเบ้องดงามสยามพาราก้อน!!

“มองหน้าพ่อมึงหรอ..”
เสียงทุ้มต่ำนั้นพูดออกมาเบาๆ.. แต่ทุกคนในห้องก็ได้ยินกันทุกคน
“มึง ออกไปแนะนำตัวหน้าห้อง”
หัวหน้าเซคชี้ไปที่ผู้มาใหม่แล้วชี้เบนไปยังหน้าห้อง หน้าตาของเขาสองคนกวนตีนพอๆกันเลย

ร่างสูงโปร่งเหมือนนายแบบเดินล้วงกระเป๋ากางเกงไปยืนอยู่ตรงหน้าห้องด้วยใบหน้านิ่งเรียบเหมือนโดนรีดด้วยเตารีด นั่นยิ่งเสริมออร่าความแบดดิบเถื่อนของเขาให้เพิ่มขึ้นเป็นกอง

“กูเซฮุน โอเซฮุน รหัส94 อย่ากวนตีนกูให้มากถ้าไม่อยากได้ตีน ตั้งใจเรียนกันนะพวกมึงอ่ะ”
เมื่อเขาพูดจบทุกคนก็พร้อมใจกันอุทาน
“เหี้ย..”
แม่งบรรพบุรุษนาซีป่ะวะ.. ขนาดมันอวยพรให้ทุกคนตั้งใจเรียนยังใช้น้ำเสียงเหมือนสั่งให้ไปตาย หน้าตาแม่งก็อ้อนๆนะ อ้อนตีน..

หากแต่มีคนๆหนึ่งกำลังเก็บอาการวี้ดว๊ายสติแตกอยู่ภายในอกจนต้องยกมือขึ้นกุมอกเอาไว้ไม่ให้หลุด ในหัวของลู่หานนี่มีคำสกรีมรวนเป็นล้านประดุจสกรีมผู้ชายหล่อในทวิตเตอร์
เขาคือเทพบุตรของลู่หาน.. เขาคือคนที่ทำให้ลู่หานต้องมานั่งอยู่ที่ตรงนี้..
ปากเล็กขบกัดเข้าหากัน หน้าแดงเขินอาย.. หัวใจเต้นถี่ระรัว

เซฮุนเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาหย่อนก้นนั่งตรงที่.. ที่ข้างลู่หาน!!
            กรี๊ดดดดดดดด กรี๊ดดดดดดด อี๊ดดดดดดดด (กรี๊ดในใจ)
            ตุ๊ดร้องไห้แรงมาก ตุ๊ดครายอิ้ง..
            “เฮ้ย ไอ้หน้าอ่อน มองไร!
            “อกอีแป้..แค่กๆ! อะ.. ไอ้สัด! กูตกใจหมด ตะโกนหาพ่อง” ตกใจเสียงตะคอกโหดๆของเขาจนหลุดจนได้ ไม่เอาลูลู่ยังไม่อยากโดนถีบ ก็มันตกใจนี่นา ที่มีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมเขาถึงมานั่งข้างสปีชี่ส์ที่เขาเกลียด

            “โห.. หน้าติ๋มๆนี่ใช่ย่อยนะมึง ปากน่าเอาตีนยัดมาก”
            “...”
            “..โดนใจกูว่ะ”

            เหยดเข้..
            บอกอีแบคเอาเปลสนามมาหอบร่างของลูลู่ทีนะคะ ไม่ไหวแล้วหัวใจเต้นกระหน่ำมากเหมือนจะระเบิดออกมาแบะอยู่ด้านนอก หายใจรวยรินไปหมด..

            “มึงเป็นเหี้ยไร มองกูยังกับจะแดก มึงเป็นตุ๊ดป่ะเนี่ย!
            “พ่องเหอะไอ้สัดกูแมนขนาดนี้ว่ากูเป็นตุ๊ดเดี๋ยวกูต่อยคว่ำ!!
            มือตบโต๊ะดังปัง ปากรัวคำพูดออกไปด้วยความลนลานกลัวว่าเขาจะรู้แก่นแท้ภายใน ตกใจคำพูดจี้จุดของเขาจนปากคอสั่นไปหมด ฮึบไว้อีลู่ฮึบ!

            เซฮุนหัวเราะออกมาโดยยกแค่มุมปาก เหมือนตัวโกงในละครน้ำเน่าแต่ก็หล่อลากดินอยู่ดี “มึงแม่ง.. โดนใจกูจริงๆว่ะ เที่ยงนี้ไปกินข้าวกับกูนะ กูให้มึงเป็นเพื่อนกู”
            “อ๊าย.. แค่กๆ! เฮ้ย จริงป่ะวะ”
            “จริงเด้! คนที่ทนความเหี้ยของกูได้ คือต้องเหี้ยเหมือนกูเท่านั้น!
            นี่กูโดนมันด่าว่าเหี้ยป่ะวะ.. แต่ไม่เป็นไร ไม่ว่าจะให้เป็นกิ้งกือไส้เดือนก็ชอบหมดนั่นแหละ..
            “เออ ได้เว้ย ได้.. กูโอเค”
           
            แต่หัวใจของลู่หานนั้นไม่โอเคเหมือนที่ปากว่าเลยสักนิด..





           

            คือแม่งเป็นคนเหี้ยๆคนหนึ่งที่โดนใจกูมากอ่ะแบค แม่งน่ารัก.. ฮือ
            “ก็ดีแล้วนี่ยะที่ได้เข้าใกล้เขาอีกขั้น”
            “กูช็อคมากอ่ะ กูไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกนี้ยังไงให้มึงฟัง มึงต้องมีความรักถึงจะเข้าใจ”
            “กูนั่งฟังมึงเพ้อถึงเขามาชั่วโมงนึงแล้วนะอีลู่ กูบรรลุแล้วค่ะ!
            เพื่อนสาวตะไบเล็บและเป่าลมพรูดๆไปมาอยู่บนเตียงคิตตี้ในห้องของลู่หาน พอเลิกเรียนปุ๊บแบคฮยอนก็วนรถไปรับนังตุ๊ดแบ๊วเพื่อที่จะได้กลับมาหอด้วยกัน อีลู่เหมือนคนสติหลุดจะล้มแหล่มิล้มแหล่ ไม่พูดไม่จาอะไรด้วยจนนึกว่าสมองเออเร่อไปหมด สงสัยจะเมาผู้ชายหล่อ แต่ไม่เลยค่ะ พอมันกลับมาถึงห้องมันก็พูดถึงแค่ผู้ชายคนเดียว เซฮุนนั่นแหละ.. คนที่มันแอบชอบอยู่ที่เรียนพิเศษตั้งแต่ม.6
            ลู่หานกับเซฮุนเรียนอยู่คนละโรงเรียนกัน ไม่แปลกที่เซฮุนจะไม่รู้จักลู่หาน ตามปกติของเด็กเตรียมเอนทรานซ์ก็ต้องมาลงเรียนพิเศษในช่วงปิดเทอม เซฮุนอยากเสอบติดวิศวะมากจนต้องโหมเรียนพิเศษให้หนักเพื่อที่จะได้สอบติด(ไปแอบสืบมา) ซึ่งมันต่างจากลุกแบดๆเตะหมาเตะแมวไปวันๆของเขาเอามากๆ ลู่หานนั่งเรียนพิเศษอยู่ด้านหลังสุดของห้องวิดีโอ.. และเซฮุนเองก็นั่งอยู่ข้างหน้าลู่หาน..
            ถ้าหากเขาหันกลับมามองเพียงนิด เขาจะรู้ว่ามีคนที่เอาแต่นั่งน้ำลายยืดมองท้ายทอยเกรียนๆของเขาและขยันแต่งตัวสวยๆมาเรียนพิเศษทุกวันเพื่อให้เขามองเห็น
            จริงๆลู่หานมันสอบอะไรก็ติดหมดแหละระดับสมองเก่งเว่อร์วังของมัน และแน่นอน มันสอบติดวิศวะภาคปิโตรเลียมที่เดียวกับ(ว่าที่)ผัวของมันจนได้ ในขณะที่เซฮุนอ่านหนังสือและกวดวิชาแทบตายกว่าจะสอบติด

            “มึงชอบมันที่ตรงไหนวะอีลู่” แบคฮยอนถามคำถามนี้มาตั้งแต่อีตุ๊ดแบ๊วยังเป็นตุ๊ดหัวโปกอยู่โรงเรียนชายล้วน แต่จนบัดนี้แบคฮยอนก็ยังไม่ได้คำตอบเสียที
            “ก็กูชอบไปแล้วอ่ะ.. มันต้องหาเหตุผลด้วยหรอ”
            “เอาเถอะย่ะแม่คนกำลังมีความรัก เออ พากูไปเซเว่นหน่อยสิกูหิว”
            “แดกอีกละ แล้วอย่ามาบ่นอ้วนทีหลังนะอีกะลังมังซักผ้า”
            “กูหุ่นดีและสวยกว่ามึงจม!
            มือผลักหัวอีตุ๊ดแรดที่มั่นใจในพุงห่วงยางของตัวเองเหลือเกินว่ามันสลิมผอมบาง มาเป็นห่วงยางขนาดนั้นแล้วแถวบ้านเรียกอ้วนจ้า แบคฮยอนในชุดนอนลายหมีพูห์เดินลงมาชั้นล่างทำเอาคนในหอชายแตกตื่นไปหมด ขนาดเพื่อนที่มาด้วยกันแม่งยังไม่กล้าเดินข้างๆเลยให้ตาย.. ลู่หานตอนอยู่หอก็ใส่ชุดอยู่หอนั่นแหละ เสื้อยืดกางเกงบอล ช่วงนี้ต้องแอ๊บแมนให้ชิน ชุดนอนคิตตี้ยัดเก็บเข้าลิ้นชักให้หมด


            “เออ ว่าแต่มึงมีเบอร์เขายังคะ” แบคฮยอนเลียไอติมที่พึ่งไปซื้อมาเมื่อกี้ เรานั่งกินขนมรับลมเล่นอยู่ใต้หอพักดีกว่าไปเปลืองแอร์ด้านบนห้อง
            “ยังอ่ะ คุยกูยังไม่ค่อยกล้าคุยเลย กลัวหลุด”
            “อีป๊อด! เขาไม่เอะใจอะไรหรอกย่ะ มึงก็แค่เป็นผู้ชายหน้าติ๋มไง”
            “คืองี้แบค กูเถื่อนใส่เซฮุนจนมันคิดว่ากูสันดานดิบพอๆกับมัน..”
            “อะไรนะ!!! กรี๊ดดดดดด อีลู่นังโง่ๆๆๆๆๆ”
            นิ้วชี้เรียวจิ้มๆๆใส่หัวของลู่หานไม่หยุด

            มือบางปัดมือเพื่อนออกไป “กูมึนหัวค่ะอีดอก!
            “แบบนี้ก็ยิ่งแอ๊บยากไปกันใหญ่น่ะสิ มันดีที่มีเกราะบังหน้าอันกล้าแกร่ง แต่อย่าลืมว่าตัวมึงอ่ะจะหนักที่ต้องแบกเกราะนั้นไว้กับตัวตลอดเวลา”
            “...”
            “เป็นตุ๊ดแล้วยังโง่อีกนะคะ ผูกเองก็แก้เองแล้วกัน เล่นๆตามน้ำไป เผลอเมื่อไหร่ก็จับรวบหัวรวบหางซะ ง่ายดาย”
            “มันคงไม่สนใจอะไรกูมากหรอกมั้ง ขนาดชื่อกูมันยังไม่ถามเลย”
            “เจริญค่ะสังคมตุ๊ด”
            แบคฮยอนทำหน้าเหนื่อยหน่ายแล้วเลียไอติมต่ออย่างเมามัน ขอให้อ้วนพุงแตกไขมันจุกปากจะได้ไม่พูดมากแบบนี้ ลู่หานนั่งค้ำคางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถึงวันนี้จะได้ไปกินข้าวกับเซฮุน แต่มันก็แค่กินข้าว พูดกันอยู่สองประโยคคือมึงจะแดกไร กับกูจะไปแดกไก่ทอด.. ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักอย่าง เซฮุนเป็นคนพูดน้อยต่อยหนักและปากหมา.. ใครบอกว่าคนที่ประหยัดคำพูดเพราะกลัวดอกพิกุลจะร่วง อย่างเซฮุนน่ะพูดน้อยแต่ถ้าได้พูดแล้วหมาออกมาทั้งคอกเลยจ้า..
            กูชอบคนแบบนี้ไปได้ยังไงวะคะ..
            แต่เซฮุนเขาก็มีมุมน่ารักของเขาละกันน่า..

            ได้ยินเสียงเหมือนคนทำหนังสือหล่นทำให้สองตุ๊ดสะดุ้งและอุทานออกมาเสียงดัง “อุ๊ยแม่ร่วง!!
            เราทั้งสองคนหันไปมองต้นตอของเสียง ก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่หลบอยู่หลังเสาต้นใหญ่กำลังก้มเก็บหนังสือสองสามเล่ม พอเขาเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ..

            “จงอิน!
            “มึงรู้จักเขาหรออีลู่ หล่อค่ะมึงอ๊าย”
            มือเล็กตะครุบปากอีตุ๊ดแรดแทบไม่ทัน ถ้าเขาหลบอยู่หลังเสานั้นจริงๆ.. เขาก็น่าจะได้ยินสิ่งที่เราคุยกันทั้งหมดน่ะสิ
            เอาปืนอาก้ามารัวยิงหัวตุ๊ดทีค่ะ กรี๊ดดดดดดดดดด

            จงอินเดินเข้ามาหาเราที่โต๊ะยิ่งทำให้คนแรดๆดีดดิ้นไปกันใหญ่ รอยยิ้มของเขายังเหมือนเดิมเหมือนกับตอนเช้า หากแต่ลู่หานกลับมองว่ามันเคลือบยาพิษชัดๆ

“เราไม่บอกใครหรอกนะ สบายใจได้”
            “บะ.. บอกเรื่องอะไรหรอ” ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และแอ๊บแมนไปก่อนแล้วกัน ทั้งที่ใจนี่แฟบไปหมดแล้ว ต้องโดนล้อจนไม่มีที่ซุกหัวอยู่ในคณะวิศวะแน่ๆเลย ตรอมใจตายอย่างเดียวดายเพราะไม่มีคนคบแน่ๆเลย

            “เรื่องที่นาย.. เป็น”
            “...”
            จุกค่ะดอกนี้.. ธาตุแท้ของน้องลูลู่เปิดเผยแล้ว..

            แบคฮยอนสะบัดหน้าออกจากมือของลู่หานได้สำเร็จก็พูดเจื้อยแจ้วกับผู้ชายหล่อ “นายรู้จักกับอีตุ๊ดแบ๊วนี่หรอคะ นายอยู่คณะอะไรอ่ะ”
            “วิศวะครับ”
            “อุ้ยว้ายตาย! อีชะมดชะม้อยหอยนางรม..”
            มือข้างหนึ่งกุมอกอีกข้างกำไอติมแน่น ชิบหาย ชิบหาย มีแต่คำว่าชิบหายเต็มไปหมด อีลู่ต้องแอ๊บแมนไม่ให้ใครรู้ ยิ่งกับผู้ชายคณะนี้ยิ่งต้องห้ามรู้โดยเด็ดขาด อุตส่าห์เลือกมาอยู่หอพักที่ตุ๊ดเยอะที่สุดและมีเด็กวิศวะน้อยที่สุดแล้วนะ จะมาความแตกเพราะไอ้คนหล่อคนนี้น่ะหรอ
           
            “เฮ้ย สบายใจได้ เราไม่บอกใครจริงๆ ไม่เชื่อใจเราหรอ”
            ทั้งสองสาวส่ายหัววือ นั่นทำให้จงอินหัวเราะออกมา
            “เราไม่ทำให้ใครลำบากใจหรอกน่า เราขอโทษที่แอบฟังก็แล้วกัน ก็คิดไว้อยู่แล้ว ผู้ชายอะไรทารองพื้นมาเรียนอย่างหนา เขียนคิ้วด้วย”
            แต่งหน้าเบาๆในวันไปเรียนไงยะ เบาสุดแล้วนะ..

            “ผู้ชายวิศวะเค้านิยมหน้าสด มีไรหนวดด้วยยิ่งดี”
            “...”
            “บางวันก็ไม่อาบน้ำด้วยนะ”
            “หือ.. ดูแลตัวเองมั่งก็ได้มั้ง” ลู่หานทำหน้าเหมือนอมมะระขมๆ
            “จะให้เนียนก็ต้องทำแบบนี้แหละ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไง เอางี้ เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มาแอบฟังทำให้ความลับของพวกนายแตก ฉันจะเป็นเทรนเนอร์ให้เอง”
            “เทรนเนอร์อะไรหรอคะ” แบคฮยอนถาม


          “ฮาวทูเถื่อนแบบวิศวะ นายจะได้แมนๆสมกับเป็นเด็กวิศวะไง”


            ชิบหายแล้วจ้า..




            TBC.
            #เปลี่ยนเทยให้เถื่อน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น